สถิติ
เปิดเมื่อ21/09/2014
อัพเดท11/07/2015
ผู้เข้าชม1714533
แสดงหน้า2188400
บทความ
ประวัติ นายประพันธ์ เวารัมย์ (เจ้าของเว็บไซต์)
ประวัตินายประพันธ์ เวารัมย์ เจ้าของเว็บไซต์ แบ่งปันความรู้สู่ความก้าวหน้า
รู้จัก ด.ช.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านนิตยสารชัยพฤกษ์ ปี 2512
รู้จัก ด.ช.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านนิตยสารชัยพฤกษ์ ปี 2512
เปิดประวัติ พล.อประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 29
เปิดประวัติ พล.อประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 29
ข้อมูลเตรียมสอบปลัดอำเภอ
้ข้อมูลเตรียมสอบปลัด 2
แนวข้อสอบปลัดอำเภอ
คู่มือการดูแลรักษาและคุ้มครองที่สาธารณประโยชน์
เจ้าของเว็บไซต์
โครงสร้างเตรียมสอบปลัดอำเภอ ข้อสอบที่เคยออกปี 2548 และปี 51-55 (สำหรับผู้ใฝ่ฝัน เป็นปลัดอำเภอ)
เตรียมสอบปลัดอำเภอ
ตู้หนังสือ แบ่งปันความรู้สู่ความก้าวหน้า
คู่มือปฏิบัติงานกองอาสารักษาดินแดน
วันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน
​หนังสือคู่มือการทะเบียนราษฎร
เตรียมสอบปลัดอำเภอ
หนังสือสั่งการต่างๆ เกี่ยวกับท้องถิ่น
ท้องถิ่นกำลังจะแก้ไขหลักเกณฑ์การสอบใหม่
เรื่องทั่้วไป
เว็บไซต์กระทรวงต่างๆ 20 กระทรวง
แบ่งปันความรู้สู่ความก้าวหน้า
ยังจำท่านได้ดี ท่านสิริรัฐ (สถาพร) ชุมอุปการ (นายอำเภอประโคนชัย ปี 2547)
สวัสดีวันพุธ ที่ 24 เดือน กันยายน พ.ศ. 2557 ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 11
เอกสารเตรียมสอบปลัดอำเภอ เนื้อหาเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล
เอกสารเตรียมสอบปลัดอำเภอ (ชุดที่ 2)
เอกสารเตรียมสอบปลัดอำเภอ (ชุดที่ 1)
หนังสือปฏิบัติงานกรมการปกครอง
คู่มือการปฏิบัติหน้าที่ของกรมการปกครอง ของปลัดอำเภอ
รวมกฎหมายปกครองที่เล่ม 5
รวมกฎหมายปกครองที่เล่ม 4
รวมกฎหมายปกครองเล่ม 3
รวมกฎหมายปกครอง เล่ม 1
รวมกฎหมายปกครอง เล่ม 2
ปฎิทิน
April 2025
Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat
  
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
   




แนวข้อสอบ การกระทำโดยพลาด 

แนวข้อสอบ การกระทำโดยพลาด 
อ้างอิง อ่าน 277 ครั้ง / ตอบ 0 ครั้ง

ประพันธ์ เวารัมย์

ตัวอย่างข้อสอบ   นาย ก เมาสุราขับรถยนต์ส่ายไปมากำลังจะชนเด็กชาย ข ซึ่งกำลังนั่งเล่นอยู่ริมถนน นาย ค เห็นเข้าเกรงว่าเด็กชาย ข จะถูกรถยนต์ชนจึงกระโดดเข้าอุ้ม แต่ด้วยความรีบร้อนได้สะดุดขาของตนเองล้มลง  ล้อรถยนต์ทับหลังเท้านาย ค บาดเจ็บ เด็กชาย ข หลุดมือจากนาย ค กระแทกริมฟุตบาท กระดูกข้อมือของเด็กชาย ข แตก ต้องตัดมือ  ดังนี้ นาย ก และและนาย ค จะมีความผิดฐานใดหรือไม่ 
                คำตอบ นาย ก มีความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้นาย ค ได้รับอันตรายแก่กายตามมาตรา ๓๙๐  และนาย ก จะต้องรับผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้เด็กชาย ข ได้รับอันตรายสาหัส เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ลงโทษบทหนักก็คือตามมาตา ๓๐๐ การกระทำของนาย ค ที่เข้าไปช่วยเด็กชาย ข เป็นเหตุแทรกแซงที่คาดหมายได้  เมื่อเป็นเหตุแทรกแซงที่คาดหมายได้ นาย ก ต้องรับผิดต่อนาย ค ด้วย  นาย ค ไม่มีความผิดเพราะตามวิสัยและพฤติการณ์  ไม่อาจใช้ความระมัดระวังเช่นว่านั้นได้ นาย ค ไม่ประมาท กรณีนี้เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างการกระทำและผล 

                ประเด็นต่อไป  เรื่องของการกระทำโดยป้องกัน มาตรา ๖๘  
                การป้องกันก็จะพิจารณาดังนี้
                ๑.มีภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย ภยันตรายนั้นใกล้จะถึงและมีเจตนาพิเศษเพื่อป้องกันสิทธิของตนเองหรือของผู้อื่น 
                ๒.จะต้องไม่เกินขอบเขต เกินสมควรแก่เหตุหรือเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน 

                ภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย หมายถึง  ไม่มีอำนาจตามกฎหมายให้กระทำได้  เช่น  ถ้าเป็นกรณีบิดาลงโทษบุตรผู้เยาว์ตามสมควรเพื่อว่ากล่าวสั่งสอน กรณีนี้ทำได้ เป็นอำนาจของบิดาต่อบุตรตามประมวลกฎหมายแพ่งฯ เพราะฉะนั้น บุตรไม่มีสิทธิกระทำการตอบโต้ต่อบิดาโดยอ้างป้องกัน  หรือการที่ตำรวจไล่จับกุมคนร้ายโดยใช้ปืนยิงขู่ คนร้ายจะยิงกลับมาโดยอ้างป้องกันทำไม่ได้ เพราะว่าตำรวจแค่ยิงขู่ แต่ถ้าตำรวจไม่ได้ยิงขู่ แต่ยิงคนร้ายหวังจะเอาชีวิตคนร้าย อย่างนี้ คนร้ายอ้างป้องกันได้  ถ้าเป็นการป้องกันจริงๆ
                กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย โดยมีเหตุอันควรสงสัย แต่ว่าในทางความเป็นจริงคนที่ถูกจับ ไม่ได้กระทำความผิดอย่างนี้คนที่ถูกจับจะอ้างป้องกันไม่ได้  แม้คนที่ถูกจับไม่ได้ทำผิดจริงๆก็ตาม เพราะตำรวจมีอำนาจตามกฎหมายที่จับกุมตัวผู้ต้องสงสัย 
                นอกจากนี้ถ้ามีกฎหมายยกเว้นความผิดให้  ก็อ้างป้องกันกลับไม่ได้ ถ้ามีกฎหมายยกเว้นความผิดให้ ก็เท่ากับไม่มีภยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมาย เพราะฉะนั้น ผู้ถูกกระทำจะอ้างป้องกันกลับไม่ได้  เช่น  ก ต้องการฆ่า ข ใช้ปืนเล็งไปที่ ข เมื่อ ข รู้ตัวจึงใช้ปืนยิง ก เพื่อป้องกันตนเอง มาตรา ๖๘ บอกว่าถ้าเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้กระทำไม่มีความผิด เพราะฉะนั้น  ก ผู้ก่อภัยแต่แรกจะอ้างป้องกันต่อ ข ไม่ได้ เพราะว่าสิ่งที่ ข ทำนั้นไม่ใช่ภัยอันตรายอันละเมิดต่อกฎหมาย 
                มีข้อสังเกต  ถ้าเป็นเรื่องป้องกัน คือถ้าผู้ป้องกัน ป้องกันกลับมาเกินสมควรแก่เหตุ  ถ้า ก จะชก ข จึงยกปืนขึ้นยิง ก  อย่างนี้เป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ  

                กรณีอำนาจจับกุมของตำรวจ กรณีที่ตำรวจมีอำนาจจับกุมตาม  ปวิอ.  ผู้ถูกจับกุมอ้างป้องกันไม่ได้  แม้จะไม่ใช่ผู้กระทำผิดจริงๆก็ตาม แต่ถ้าหากตำรวจไม่มีอำนาจจับกุมตามกฎหมาย แต่ไปสำคัญผิดว่าตนเองมีอำนาจจับกุม เช่น  ตำรวจมีหมายจับ ก  แต่เผอิญว่าไปจับ ข คู่แฝดของ ก โดยเข้าใจว่า ข เป็น ก อย่างนี้ตำรวจไม่มีอำนาจจับ ถามว่าตำรวจจะต้องรับผิดในการกระทำให้ ข เสื่อมเสียสิทธิเสรีภาพหรือไม่ คำตอบคือไม่ต้องรับผิด เพราะตำรวจอ้างความสำคัญผิดตามมาตรา ๖๒ วรรคแรกเพื่อปฏิเสธความรับผิดได้ แต่คำถามก็คือว่า ข ซึ่งมิใช่บุคคลตามหมายจับสามารถป้องกันตนเองไม่ได้ถูกจับได้หรือไม่ คำตอบก็คือได้ เพราะเป็นกรณีตำรวจไม่มีอำนาจจับ  เพราะฉะนั้น ข สามารถอ้างป้องกันได้
                ข้อสังเกต เรื่องของการป้องกัน  คือการละเมิดกฎหมายแพ่ง  การที่จะอ้างป้องกันได้ ภัยอันตรายอันละเมิดต่อกฎหมายนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นกฎหมายอาญา กฎหมายแพ่งก็อ้างป้องกันได้ เช่น การเป็นชู้ เป็นการละเมิดกฎหมายแพ่ง การที่สามีฆ่าภริยาหรือชายชู้ตายขณะร่วมประเวณีกัน ก็อ้างป้องกันได้  แต่ถ้าเป็นสามีภริยาไม่ชอบด้วยกฎหมายก็อ้างป้องกันไม่ได้

                ภยันตรายอันตรายนั้นใกล้จะถึง ไม่จำเป็นต้องถึงขนาดลงมือ เช่น การชักปืนออกมายังไม่ทันเล็งถือว่าภัยใกล้จะถึงแล้ว  ก็สามารถป้องกันได้ 
                ข้อสังเกต เรื่องของประมาท เช่น  ก  ขับรถส่ายไปส่ายมายังไม่ชนใคร  ถ้ารถนั้นกำลังจะชน ข  ค ยิงล้อรถยนต์ของ ก  อ้างป้องกันได้หรือไม่  อย่าลืมว่าการขับรถส่ายไปส่ายมายังไม่ชนใครยังไม่เป็นความผิด ประกอบกับความผิดฐานพยายามประมาทไม่มีนะครับ เพราะฉะนั้น การขับรถส่ายไปส่ายมายังไม่เป็นความผิด  ในเรื่องนี้การขับรถส่ายไปส่ายมา การที่ ค ยิงยางรถคันนั้นเพื่อหยุดหยุด ถือว่าเป็นการป้องกันภัยอันใกล้จะถึงแล้ว  แม้การกระทำของ ก ยังไม่เป็นความผิดด้วยซ้ำ

                การกระทำโดยป้องกันนั้นจะต้องมีเจตนาพิเศษเพื่อป้องกันสิทธิของตนเอง  ปกติแล้วการป้องกันนั้นจะต้องเป็นการกระทำโดยเจตนา ถ้าไม่ใช่เจตนาอ้างป้องกันไม่ได้ เช่น ก ทำความสะอาดปืนของตนเอง  ปรากฎว่าปืนลั่น ขณะนั้น ข ต้องการจะฆ่า ก กำลังจ่อปืนเล็งไปที่ ก ขณะกำลังทำความสะอาดอยู่ ขณะเดียวกันปืนของ ก ลั่นกระสุนถูก ข ถึงแก่ความตาย อย่างนี้ ก จะอ้างป้องกันต่อ ข ได้หรือไม่ คำตอบคือไม่ได้ เพราะว่าการกระทำโดยป้องกันจะต้องกระทำโดยเจตนา แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของการกระทำโดยประมาท
                อีกกรณีหนึ่ง การวางสายไฟฟ้าป้องกันยุ้งข้าวของตนเอง ปรากฎว่าไปถูกโจรมาขโมยข้าว ถามว่าอ้างป้องกันได้หรือไม่ คำตอบคือไม่ได้ เพราะว่าไม่มีเจตนาพิเศษเพื่อป้องกันสิทธิของตนเองหรือผู้อื่น
                คำพิพากษาศาลฎีกาที่  ๔๖๙/๒๕๕๐ 

หาก Coppy กรุณาให้เครดิต เว็บติวเนติออนไลน์  www.tuinationline.com
 
ประพันธ์ เวารัมย์ [101.51.51.xxx] เมื่อ 14/01/2017 13:57
ความคิดเห็นของผู้เข้าชม
รูปประกอบความคิดเห็น :
ชื่อผู้แสดงความคิดเห็น :
สถานะ : รหัสผ่าน :
อีเมล์ :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง :
รหัสความปลอดภัย :