แนวข้อสอบพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540 (ชุดที่ 1) โดยประพันธ์ เวารัมย์ |
|
อ้างอิง
อ่าน 330 ครั้ง / ตอบ 0 ครั้ง
|
ประพันธ์ เวารัมย์
|
แนวข้อสอบพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540
(ชุดที่ 1) โดยประพันธ์ เวารัมย์
***************************
1. พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ มีผลบังคับเมื่อใด ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข. วันที่ 11 กันยายน 2540
ค. เมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ง. ข้อ ก. และข้อ ข.
*****************************************************
2. ข้อใดเป็นเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ให้ประชาชนมีโอกาสรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดำเนินการต่างๆของรัฐ
ข. รับรองสิทธิของประชาชนในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของราชการ
ค. ข้อมูลข่าวสารของราชการทั้งหมด หรือส่วนใหญ่สามารถเปิดเผยได้ ภายใต้หลักการที่ว่า “เปิดเผยเป็นหลัก ปกปิดเป็นข้อยกเว้น”
ง. ประชาชนต้องเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของทางราชการได้ทุกกรณีไม่มีข้อยกเว้น
*****************************************************
3. ข้อใด เป็นข้อมูลข่าวสาร
ก. แฟ้มข้อมูลรายงานของนายประสพดี
ข. ภาพถ่าย ฟิล์มของนายบัญชา
ค. การบันทึกภาพเสียงโดยเครื่องคอมพิวเตอร์ของนายอาทิตย์
ง. ถูกทุกข้อ
*****************************************************
4. ข้อใด เป็นความหมายของข้อมูลข่าวสารของราชการ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองของอำเภอ
ข. ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในการควบคุมดูแลของจังหวัด
ค. ข้อมูลข่าวสารในการครอบครองและควบคุมไม่ว่าเป็นข้อมูลเกี่ยวกับข่าวสารเกี่ยวกับเอกชน
ง. ไม่มีข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
*****************************************************
5. หน่วยงานของรัฐ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. จังหวัด อำเภอ
ข. อบจ. เมืองพัทยา เทศบาล อบต.
ค. ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ ส่วนราชการสังกัดรัฐสภา
ง. ศาลเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการพิจารณาพิพากษาคดี
*****************************************************
6. ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล หมายความว่า ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ประวัติการมีภรรยาน้อยของนายอาทิตย์
ข. ประวัติการทำงานของนายสุดที่รัก
ค. ประวัติการตายของนายทองดี
ง. หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของนายจุงเบย
*****************************************************
7. ความหมายของคนต่างด้าว ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ถ้าผู้จัดการหรือกรรมการ สมาชิกของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนเกินกึ่งหนึ่งเป็นของคนต่างด้าว ไม่ให้ถือว่าเป็นคนต่างด้าว
ข. สมาคมลามามีสมาชิกเกินกึ่งหนึ่งเป็นคนต่างด้าว
ค. มูลนิธิใส่ใจมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ของคนต่างด้าว
ง. นายลองจีที่ไม่มีสัญชาติไทยและไม่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
*****************************************************
8. ตำแหน่งเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และมีอำนาจออกฎกระทรวงเพื่อปฎิบัติตามพระราชบัญญัตินี้
ก. นายจุงเบยเป็นนายกรัฐมนตรี
ข. นางโอเคเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ค. นายสุดยอดเป็นรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมาย
ง. นายโปรโมชั่นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
*****************************************************
9. กฎกระทรวงเพื่อปฎิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540มีผลบังคับเมื่อใด
ก. วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข. เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
ค. ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
ง. มีผลบังคับใช้ทันที
*****************************************************
10. สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการจัดตั้งอยู่ในหน่วยงานใด
ก. สำนักนายกรัฐมนตรี
ข. สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ค. สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
ง. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
*****************************************************
11. สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ มีหน้าที่ปฎิบัติงานดังนี้ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. เกี่ยวกับงานวิชาการและธุรการให้แก่คณะกรรมการและคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ข. สอดส่องดูแลและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานของรัฐ
ค. ประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ
ง. ให้คำปรึกษาแก่เอกชนเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้
*****************************************************
12. พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 กำหนดหลักการสำคัญเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารของทางราชการที่อยู่ในความครอบครองของหน่วยงานของรัฐไว้อย่างไร
ก. ปกปิดเป็นหลัก เปิดเผยเป็นข้อยกเว้น
ข. เปิดเผยเป็นหลัก ปกปิดเป็นข้อยกเว้น
ค. เปิดเผยบ้าง ปกปิดบ้างตามความเหมาะสม
ง. เปิดเผยบ้าง ขึ้นอยู่กับหัวหน้าหน่วยงาน
*****************************************************
13. ข้อมูลข่าวสารประเภทใดบ้าง ที่หน่วยงานของรัฐต้องนำไปลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. โครงสร้างและการจัดองค์กรในการดำเนินงาน
ข. แผนงาน โครงการ และงบประมาณรายจ่ายประจำปีของปีที่กำลังดำเนินการ
ค. สรุปอำนาจหน้าที่ที่สำคัญและวิธีการดำเนินงาน
ง. กฎ มติคณะรัฐมนตรี ข้อบังคับ คำสั่ง หนังสือเวียน ระเบียบ แบบแผน นโยบาย หรือการตีความ ทั้งนี้ เฉพาะที่จัดให้มีขึ้นโดยมีสภาพอย่างกฎ เพื่อให้มีผลเป็นการทั่วไปต่อเอกชนที่เกี่ยวข้อง
*****************************************************
14. ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 กำหนดให้ข้อมูลข่าวสารที่ต้องเปิดเผยเป็นการทั่วไป โดยพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา คือข้อมูลประเภทใด
ก. คู่มือหรือคำสั่งเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งมีผลกระทบถึงสิทธิหน้าที่ของเอกชน
ข. กฎ มติคณะรัฐมนตรี ข้อบังคับ คำสั่ง หนังสือเวียน ระเบียบที่มีสภาพอย่างกฎ
ค. สัญญาสัมปทาน
ง. ผลการพิจารณา หรือคำวินิจฉัยที่มีผลโดยตรงต่อเอกชน
*****************************************************
15. ข้อมูลข่าวสารของราชการในข้อใดที่ประชาชนสามารถเข้าตรวจดูได้
ก. นโยบาย และแผนงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ข. โครงการ และงบประมาณรายจ่ายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ค. สัญญาร่วมทุนขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับเอกชนในการจัดบริการสาธารณะ
ง. ถูกทุกข้อ
*****************************************************
16. ข้อใดไม่ใช่ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล
ก. ประวัติอาชญากรรมของนายเหี่ยม
ข. ประวัติสุขภาพของนายอ่อนหวาน
ค. ฐานะทางการเงินของนายรวย
ง. ข้อมูลเกี่ยวกับรัฐบาลปัจจุบัน
*****************************************************
17. ข้อใดไม่ใช่ข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก. ประวัติการสมรสของนายมี
ข. ประวัติสถิติสำมะโนครัวของประชากร
ค. ข้อมูลทะเบียนราษฎรของอำเภอ
ง. ประวัติพนักงานบริษัท
*****************************************************
18. บุคคลย่อมมีสิทธิเข้าตรวจดู ขอสำเนาหรือขอสำเนาที่มีคำรับรองถูกต้องของข้อมูลข่าวสาร ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. บุคคลไม่ว่าจะมีส่วนได้เสียเกี่ยวข้องหรือไม่ก็ตาม
ข. คนต่างด้าวจะมีสิทธินั้น ให้เป็นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
ค. ในการนี้ให้คำนึงถึงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยประกอบด้วย
ง. ต้องเป็นบุคคลมีส่วนได้เสียและเกี่ยวข้องเท่านั้น
*****************************************************
19. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก. ข่าว ความรู้ต่างๆที่คนอ่านได้
ข. ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสิ่งเฉพาะบุคคล เช่น การศึกษา ประวัติสุขภาพ
ค. ภาพวาด แผนที่ ภาพถ่ายต่างๆ ซึ่งบอกความหมาย
ง. ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความรับผิดชอบหรือการครอบครองของราชการ
*****************************************************
20. หน่วยงานไม่ใช่หน่วยงานของรัฐที่อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก. รัฐวิสาหกิจ เช่น การไฟฟ้า
ข. ส่วนราชการสังกัดรัฐสภา
ค. หน่วยงานอิสระของรัฐ เช่น สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)
ง. ศาลที่เกี่ยวกับการพิจารณาพิพากษาคดี
*****************************************************
21. คนต่างด้าว จะมีสิทธิเข้าตรวจดู ขอสำเนาหรือขอสำเนาที่มีคำรับรองถูกต้องของข้อมูลข่าวสารให้เป็นตามกฎหมายใด
ก. กฎกระทรวงออกโดยนายกรัฐมนตรี
ข. กฎกระทรวงออกโดยคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ค. กฎกระทรวงออกโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ง. ระเบียบกระทรวงมหาดไทย
*****************************************************
22. ถ้ามีบุคคลใด ขอข้อมูลข่าวสารอื่นใดของราชการและคำขอของผู้นั้นระบุข้อมูลข่าวสารที่ต้องการในลักษณะที่อาจเข้าใจได้ตามสมควร ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ให้บุคคลนั้นร้องขอต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารก่อน
ข. ให้หน่วยงานของรัฐผู้รับผิดชอบจัดหาข้อมูลข่าวสารนั้น
ค. จัดหาข้อมูลข่าวสารนั้นให้แก่ผู้ขอภายในเวลาอันสมควร
ง. จัดหาข้อมูลข่าวสารนั้นภายในเวลาอันสมควรเว้นแต่ผู้นั้นขอจำนวนมากหรือบ่อยครั้งโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
*****************************************************
23. ข้อมูลข่าวสารของราชการใด มีสภาพที่อาจบุบสลายง่าย ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. หน่วยงานของรัฐอาจขอขยายในการจัดหาให้ในสภาพอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ข้อมูลข่าวสารนั้นก็ได้
ข. หน่วยงานของรัฐอาจขอขยายในจัดทำสำเนาให้ในในสภาพอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ข้อมูลข่าวสารนั้นก็ได้
ค. เป็นการแปรสภาพเป็นเอกสารจากข้อมูลข่าวสารที่บันทึกไว้ในระบบบันทึกภาพหรือเสียง ระบบคอมพิวเตอร์ หรือระบบอื่นใด
ง. หากเป็นการจัดทำ วิเคราะห์ จำแนก รวบรวม หรือจัดให้มีขึ้นใหม่ ห้ามไม่ให้หน่วยงานของรัฐจัดหาให้
*****************************************************
24. หน่วยงานของรัฐจะจัดหาข้อมูลข่าวสารข้อมูลข่าวนั้นให้ก็ได้ หากเห็นว่าผู้ขอนั้น
ก. มิใช่แสวงหาผลประโยชน์ทางการค้า
ข. เป็นเรื่องจำเป็น เพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพสำหรับผู้นั้น
ค. เป็นเรื่องที่จะเป็นประโยชน์แก่สาธารณะ
ง. ถูกทุกข้อ
*****************************************************
25. แม้ว่าข้อมูลข่าวสารที่ขอจะอยู่ในความควบคุมดูแลของหน่วยงานหรืออยู่ในครอบครองของหน่วยงานของรัฐอื่นก็ตาม ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ให้หน่วยงานของรัฐที่รับคำขอให้คำแนะนำกับผู้ยื่นคำขอข้อมูลข่าวสาร
ข. ให้คำแนะนำเพื่อไปยื่นขอต่อหน่วยงานของรัฐที่ควบคุมดูแลข้อมูลข่าวสารนั้นโดยไม่ชักช้า
ค. ถ้าหน่วยงานผู้รับคำขอเห็นว่าข้อมูลข่าวสารจัดทำโดยหน่วยงานของรัฐแห่งอื่น และได้ระบุห้ามการเปิดเผยไว้ ให้ส่งคำขอนั้นให้หน่วยงานของรัฐผู้จัดทำข้อมูลข่าวสารนั้นพิจารณาเพื่อมีคำสั่งต่อไป
ง. หน่วยงานผู้รับคำขอต้องปฎิเสธทันทีกรณีไม่อยู่ในความควบคุมของหน่วยงานตน
*****************************************************
26. ผู้ใดเห็นว่าหน่วยงานรัฐไม่จัดพิมพ์ข้อมูลข่าวสาร หรือปฎิบัติหน้าที่ล่าช้า หรือเห็นว่าตนไม่ได้รับความสะดวกโดยไม่เหตุอันสมควร ผู้นั้นมีสิทธิร้องเรียนต่อใคร
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. หัวหน้าหน่วยงานนั้น
ค. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสร
ง. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
*****************************************************
27. ในกรณีที่มีการร้องเรียนต่อคณะกรรมการ คณะกรรมการต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในกี่วัน
ก. 15 วัน ข. 30 วัน ค. 45 วัน ง. 60 วัน
*****************************************************
28. ในคณะกรรมการพิจารณาไม่เสร็จ กรณีจำเป็นที่มีเหตุจำเป็นให้ขยายเวลาออกไปได้ แต่ต้องแสดงเหตุแ
รวมเวลาทั้งหมดแล้วต้องไม่เกินกี่วัน
ก. 15 วัน ข. 30 วัน ค. 45 วัน ง. 60 วัน
*****************************************************
29. ข้อมูลข่าวสารราชการใด ที่หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอาจมีคำสั่งมิให้เปิดเผยก็ได้ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. การเปิดเผยจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือความมั่นคงในทางเศรษฐกิจหรือการคลังของประเทศ
ข. การเปิดเผยจะก่อให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพ หรือไม่อาจสำเร็จตามวัตถุประสงค์ได้ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการฟ้องคดี การป้องกัน การปราบปราม การทดสอบ การตรวจสอบ หรือการรู้แหล่งที่มาของข้อมูลข่าวสารหรือไม่ก็ตาม
ค. รายงานการแพทย์หรือข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลซึ่งการเปิดเผยจะเป็นการรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคลโดยไม่สมควร
ง. ข้อมูลข่าวสารของราชการที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
*****************************************************
30. ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐมีคำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารใด ผู้ยื่นคำขออาจอุทธรณ์ต่อใคร
ก. คณะกรรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ข. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ค. หัวหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ง. นายกรัฐมนตรี
*****************************************************
31. ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐมีคำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารใด ผู้ยื่นคำขออาจอุทธรณ์ภายในกี่วัน
ก. 15 วัน ข. 30 วัน ค. 45 วัน ง. 60 วัน
*****************************************************
32. ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐเห็นว่า การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการใด อาจกระทบถึงประโยชน์ได้เสียของผู้ใด ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐแจ้งให้ผู้นั้นเสนอคำคัดค้านภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งต้องไม่น้อยกว่ากี่วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
ก. 15 วัน ข. 30 วัน ค. 45 วัน ง. 60 วัน
*****************************************************
33.ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ของรัฐมีคำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารใด หรือมีคำสั่งไม่รับฟังคำคัดค้านของผู้มีประโยชน์ได้เสีย ผู้นั้นอาจอุทธรณ์นับแต่วันวันที่รับแจ้งคำสั่งนั้น โดยยื่นคำอุทธรณ์ต่อใคร
ก. คณะกรรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ข. คณะกรรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ค. หัวหน้าหน่วยงานกำกับดูแลข้อมูล
ง. นายกรัฐมนตรี
*****************************************************
34.การพิจารณาเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารที่มีคำสั่งมิให้เปิดเผยนั้นไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาของคณะกรรมการ คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารหรือศาลก็ตาม ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ต้องดำเนินการพิจารณาโดยมิให้ข้อมูลข่าวสารนั้นเปิดเผยบุคคลอื่น
ข. มิให้ข้อมูลข่าวสารนั้นเปิดเผยบุคคลอื่นที่จำเป็นแก่การพิจาณา
ค. ในกรณีจำเป็นจะพิจารณาลับหลังคู่กรณีหรือคู่ความฝ่ายใดก็ได้
ง. ต้องพิจารณาอย่างเปิดเผยโดยให้คู่ความทั้งสองฝ่ายรับทราบด้วย
*****************************************************
35. การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารใดแม้จะเข้าข่ายต้องมีความรับผิดชอบตามกฎหมายใด ให้ถือว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ต้องรับผิดหากเป็นการกระทำโดยสุจริต ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. เจ้าหน้าที่ของรัฐได้ดำเนินการโดยถูกต้องตามระเบียบ
ข. เจ้าหน้าที่ของรัฐในระดับตามกำหนดในกฎกระทรวงมีคำสั่งเปิดเผยเป็นการทั่วไป
ค. เฉพาะแก่บุคคลใดเพื่อประโยชน์อันสำคัญยิ่งกว่าที่เกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะ หรือชีวิต ร่างกาย สุขภาพ หรือประโยชน์อื่นของบุคคล
ง. การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามข้างต้น ให้หน่วยงานของรัฐพ้นจากความรับผิดตามกฎหมายหากจะมีในกรณีดังกล่าว
*****************************************************
36. เพื่อประโยชน์แห่งหมวดนี้ “บุคคล” หมายความว่าพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540 ตามข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. บุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย
ข. บุคคลธรรมดาที่ไม่มีสัญชาติไทยแต่มีถิ่นอยู่ในประเทศไทย
ค. บุคคลธรรมดาที่ได้เสียภาษีตามกฎหมาย
ง. ไม่มีข้อกล่าวไม่ถูกต้อง
*****************************************************
37.หน่วยงานของรัฐต้องปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดระบบข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลดังต่อไปนี้ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ต้องจัดให้มีระบบข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลเพียงเท่าที่เกี่ยวข้องและจำเป็นเพื่อการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์เท่านั้น
ข. หน่วยงานของรัฐต้องแจ้งเจ้าของข้อมูลทราบล่วงหน้า ลักษณะการใช้ข้อมูลตามปกติ และกรณีที่ขอข้อมูลนั้นเป็นกรณีที่อาจใช้ข้อมูลได้โดยสมัครใจเท่านั้น กฎหมายบังคับมิได้
ค. พยายามเก็บข้อมูลข่าวสารโดยตรงจากเจ้าของข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่จะกระทบถึงประโยชน์ได้เสียโดยตรงของบุคคลนั้น
ง. ตรวจสอบแก้ไขข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลในความรับผิดชอบให้ถูกต้องอยู่เสมอ
*****************************************************
38. หน่วยงานของรัฐจะเปิดเผยข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลที่อยู่ในความควบคุมดูแลของตนต่อหน่วยงานของรัฐแห่งอื่นหรือผู้อื่น โดยปราศจากความยินยอมเป็นหนังสือของเจ้าของข้อมูลที่ให้ไว้ล่วงหน้าหรือขณะนั้นมิได้ เว้นแต่เป็นการเปิดเผยดังนี้ ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. เปิดเผยต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อการป้องกันการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย การสืบสวน การสอบสวน หรือการฟ้องคดี ไม่ว่าเป็นคดีประเภทใดก็ตาม
ข. บริษัทสายสืบในการสืบหาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง
ค. เป็นการให้ซึ่งจำเป็นเพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิตหรือสุขภาพของบุคคล
ง. ต่อหน่วยงานของรัฐที่ทำงานด้านการวางแผนหรือการสถิติหรือสำมะโนต่างๆ
*****************************************************
39.ข้อมูลใด ที่หน่วยงานรัฐอาจมีคำสั่งมิให้เปิดเผยก็ได้
ก. การบังคับใช้กฎหมายเสื่อประสิทธิภาพได้ถ้าเปิดเผย
ข. รายงานการแพทย์หรือข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลซึ่งอาจก่อให้เกิดการรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคล
ค. สิ่งพิมพ์ที่ต้องพิมพ์อ้างอิงในราชกิจจานุเบกษา
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก. และข้อ ข.
*****************************************************
40.ข้อมูลข่าวสารของราชการที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์จะเปิดเผยได้ เพื่อคัดเลือกไว้ให้ประชาชนได้ศึกษาค้นคว้า เมื่อครบกี่ปี
ก. 20 ปี ข. 30 ปี ค. 70 ปี ง. 75 ปี
*****************************************************
41.การเปิดเผยจะก่อให้เกิดความเสียหาต่อความมั่นคงของประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือความมั่นคงในทางเศรษฐกิจหรือการคลังประเทศ เพื่อคัดเลือกไว้ให้ประชาชนได้ศึกษาค้นคว้า เมื่อครบกี่ปี
ก. 20 ปี ข. 30 ปี ค. 70 ปี ง. 75 ปี
*****************************************************
42. ข้อมูลข่าวสารของราชการที่หน่วยงานของรัฐ ไม่ประสงค์จะเก็บรักษาหรือมีอายุครบกำหนด นับแต่วันที่เสร็จสิ้นการจัดให้มีข้อมูลข่าวสารนั้น ให้หน่วยงานของรัฐส่งมอบให้หน่วยงานใด หรือหน่วยงานอื่นของรัฐตามกำหนดในพระราชกฤษฎีกา เพื่อคัดเลือกไว้ให้ประชาชนได้ศึกษาค้นคว้า
ก. สำนักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร
ข. สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร
ค. สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร
ง. สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร
*****************************************************
43. ถ้าหน่วยงานของรัฐไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ประชาชนผู้ได้รับผลกระทบต่อการกระทำดังกล่าวมีสิทธิดำเนินการอย่างไร
ก. ร้องเรียนต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ และอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ข. ร้องเรียนต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ และอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ค. ร้องเรียนต่อหน่วยงาน และฟ้องต่อศาลปกครอง
ง. ร้องเรียนต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ และอุทธรณ์ต่อนายกรัฐมนตรี
*****************************************************
44. ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ข้อมูลข่าวสาร หมายความรวมถึง สิ่งที่สื่อความหมายให้รู้เรื่องราว ข้อมูล ด้วยการบันทึกโดยเครื่องคอมพิวเตอร์
ข. ข้อมูลข่าวสารของราชการ หมายความรวมถึง ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเอกชนที่อยู่ในความครอบครองของ รัฐ
ค. ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลหมายความถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสิ่งเฉพาะตัวของบุคคลที่อยู่ในความครอบครองของรัฐ
ง. เจ้าหน้าที่ของรัฐหมายถึงผู้ปฏิบัติงานให้แก่หน่วยงานของรัฐ
*****************************************************
45. หน่วยงานของรัฐต้องส่งข้อมูลข่าวสารประเภทใด ลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา
ก. โครงสร้าง และการจัดองค์การในการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ
ข. รายชื่อ ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างในหน่วยงานของรัฐ
ค. คำสั่งเกี่ยวกับการปฏิบัติงานภายในส่วนราชการ
ง. งบประมาณรายจ่ายประจำปีของปีที่กำลังดำเนินการของหน่วยงานของรัฐ
*****************************************************
46. ข้อใดไม่ใช่ข่าวสารประเภทที่หน่วยงานของรัฐต้องจัดไว้ให้ประชาชนเข้าตรวจดูได้
ก. ผลการพิจารณาของหน่วยงานของรัฐที่มีผลโดยตรงต่อเอกชน
ข. สรุปอำนาจหน้าที่ที่สำคัญและวิธีการดำเนินงาน
ค. มติคณะรัฐมนตรี หรือมติคณะกรรมการแต่งตั้งโดยกฎหมาย
ง. แผนงาน โครงการและงบประมาณรายจ่ายประจำปีของปีที่กำลังดำเนินการ
*****************************************************
47. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานของรัฐ ในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก. ส่งข้อมูลข่าวสารของราชการลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา
ข. จัดข้อมูลข่าวสารไว้ให้ประชาชนตรวจดู
ค. จัดหาข้อมูลข่าวสารให้แก่ผู้ขอในเวลาอันสมควร
ง. จัดทำสำเนาและรับรองข้อมูลข่าวสารให้กับประชาชนทุกครั้งตามประสงค์ที่ขอ
*****************************************************
48. ข้อใดเป็นข่าวสารที่กำหนดว่าห้ามเปิดเผย เว้นแต่จะครบเจ็ดสิบห้าปี
ก. ข่าวสารที่การเปิดเผยจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ
ข. ข่าวสารที่การเปิดเผยจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ค. ข่าวสารที่อาจให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ง. ถูกทุกข้อ
*****************************************************
49. ข้อใดเป็นข่าวสารที่หน่วยงานของรัฐอาจมีคำสั่งมิให้เปิดเผย ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ข่าวสารที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ข. ข่าวสารที่การเปิดเผยจะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือความปลอดภัยของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
ค. ข่าวสารที่การเปิดเผยจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ง. ถูกเฉพาะข้อ ข และ ค
*****************************************************
50. กรณีที่มีการคัดค้านคำสั่งเปิดเผยข้อมูล และเจ้าหน้าที่ของรัฐมีคำสั่งไม่รับฟ้องคำคัดค้าน เจ้าหน้าที่ของรัฐจะเปิดเผยข้อมูลข่าวสารนั้นได้เมื่อใด
ก. เปิดเผยได้ทันที
ข. เปิดเผยเมื่อได้ล่วงพ้นกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์
ค. เปิดเผยได้เมื่อล่วงพ้น 30 วันไปแล้ว
ง. เปิดเผยเมื่อได้ล่วงพ้น 45 วันไปแล้ว
*****************************************************
51. การอุทธรณ์คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ต้องอุทธรณ์ต่อใคร
ก. ศาลปกครอง
ข. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ค. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ง. ศาลอุทธรณ์
*****************************************************
52.ข้อใดเป็นการออกระเบียบเพื่อยกเว้นการบังคับใช้เกี่ยวกับหลักเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการที่ถูกต้องที่สุด
ก. สำนักข่าวกรองแห่งชาติเป็นผู้ออกระเบียบ
ข. สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นผู้ออกระเบียบ
ค. หน่วยงานของรัฐอาจออกระเบียบ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ง. ถูกทุกข้อ
*****************************************************
53. ข้อใดเป็นการวางระบบข้อมูลข่าวสารของราชการที่ถูกต้อง ข้อใดกล่าวผิด
ก. ตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลในความรับผิดชอบให้ถูกต้องอยู่เสมอ
ข. จัดให้มีระบบรักษาความปลอดภัยให้แก่ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล
ค. จัดให้มีการลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา
ง. ตรวจสอบแก้ไขข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลใความรับผิดชอบให้ถูกต้องเป็นประจำทุกปี
*****************************************************
54. ผู้ขอข้อมูลมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการในกรณีหน่วยงานของรัฐไม่ปฏิบัติตามกฎหมายในข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ไม่จัดข้อมูลข่าวสารไว้ให้ประชาชนดู
ข. ปฏิบัติหน้าที่ล่าช้า
ค. ไม่อำนวยความสะดวกโดยไม่มีเหตุอันควร
ง. ไม่จัดทำ กรณีต้องจัดทำ วิเคราะห์ จำแนก รวบรวม หรือจัดให้มีขึ้นใหม่
*****************************************************
55. กรณีคณะกรรมการได้รับข้อร้องเรียนไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสาร ของราชการของหน่วยงานของรัฐ คณะกรรมการต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในกี่วัน
ก. 15 วัน ข. 30 วัน ค. 45 วัน ง. 60 วัน
*****************************************************
56. ข้อใดไม่ถูกต้อง เกี่ยวกับการปฏิบัติงานหน่วยงานของรัฐในการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล ที่อยู่ในความควบคุมดูแลของหน่วยงานของรัฐ
ก. การเปิดเผยต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลซึ่งได้ให้ไว้ล่วงหน้า
ข. การเปิดเผยต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลในเวลาที่จะเปิดเผย
ค. หน่วยงานของรัฐมีอำนาจเปิดเผยข้อมูลที่อยู่ในความควบคุมดูแลได้ทุกรณีไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอม
ง. ถูกเฉพาะข้อ ก และ ข
*****************************************************
57. กรณีหน่วยงานของรัฐไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลให้ตรงตามคำขอของเจ้าของข้อมูล เจ้าของข้อมูลมีสิทธิอุทธรณ์ต่อใครภายในระยะเวลาเท่าใด
ก. อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ภายใน 15 วัน
ข. อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ภายใน 30 วัน
ค. อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ภายใน 30 วัน
ง. อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการรับเรื่องราวร้องทุกข์ ภายใน 30 วัน
*****************************************************
58. หน่วยงานที่มีหน้าที่เก็บรักษาเอกสารประวัติศาสตร์ตามพระราชบัญญัตินี้ คือ บุคคลในข้อใด
ก. พิพิธภัณฑ์
ข. หอจดหมายแห่งชาติ
ค. กรมสารสนเทศ
ง. สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
*****************************************************
59. ตำแหน่งใดเป็นประธานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร ตามที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้
ก. นายจุงเบยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี.
ข. นายโดดเด่นรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ค. นายแน่นหนารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ง. นางแน่นอกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
*****************************************************
60. ตำแหน่งใดต่อไปนี้ ไม่ได้เป็นกรรมการในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ตามที่กำหนดในพระราชบัญญัตินี้
ก. นายชงมาปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายปราบภัยปลัดกระทรวงกลาโหม นายโคนมปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายคงเดชปลัดกระทรวงมหาดไทย
ข. นายการดีเป็นผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ นายสุดลับผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ และนายชงดีเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นายรับรู้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
ค. นายหนักแน่นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายเรียนดีเลขาธิการข้าราชการพลเรือน นายตีความเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา
ง. นายใส่ใจปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายยอดเยี่ยมปลัดกระทรวงยุติธรรม นายเอิกเกริกปลัดกระทรวงกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
*****************************************************
61. ข้อใดไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก. สอดส่องการดูแลการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ
ข. ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐในการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติ
ค. ให้คำปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐเกี่ยวกับการปฎิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ ตามที่ได้รับคำขอ
ง. กำหนดหลักเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการ
*****************************************************
62. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละกี่ปี ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุด
ก. 2 ปี นับแต่วันที่รับแต่งตั้ง
ข. 3 ปี นับแต่วันที่รับแต่งตั้ง
ค. 3 ปี นับแต่วันที่รับแต่งตั้ง อาจได้รับแต่งตั้งใหม่ได้
ง. 4 ปี นับแต่วันที่รับแต่งตั้ง อาจได้รับแต่งตั้งใหม่ได้
*****************************************************
63. ใครเป็นผู้แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก. ประธานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ข. นายกรัฐมนตรี
ค. รัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ง. คณะรัฐมนตรี
*****************************************************
64. กรรมการในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ มีจำนวนทั้งสิ้นกี่คน
ก. 19 คน
ข. 21 คน
ค. 23 คน
ง. 25 คน
*****************************************************
65. กรรมการในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ รวมกับเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการ รวมเป็นกี่คนทั้งหมด
ก. 20 คน
ข. 24 คน
ค. 25 คน
ง. 26 คน
*****************************************************
66. ใครเป็นผู้แต่งตั้งข้าราชการของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นเลขานุการและและผู้ช่วยเลขานุการ
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ค. คณะรัฐมนตรี
ง. ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
*****************************************************
67. คำสั่งขยายเวลาไม่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารของราชการของหน่วยงานของรัฐมีกำหนดคราวละเกินกี่ปีไม่ได้
ก. 2 ปี
ข. 3 ปี
ค. 4 ปี
ง. 5 ปี
*****************************************************
68. กรณีที่หน่วยงานของรัฐปฏิเสธว่าไม่มีข้อมูลข่าวสารตามที่มีคำขอ ถ้าผู้ขอไม่เชื่อว่าเป็นความจริงควรดำเนินการอย่างไร
ก. ร้องเรียนต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการเพื่อให้ตรวจสอบ
ข. ร้องเรียนต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารเพื่อให้ตรวจสอบ
ค. ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคำสั่ง
ง. ถูกทุกข้อ
*****************************************************
69. การแต่งตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ต้องดำเนินการอย่างไร
ก. นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ใช้อำนาจในการแต่งตั้ง
ข. คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งตามข้อเสนอของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ค. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการเป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้ง
ง. เลือกตั้งคณะกรรมการในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
*****************************************************
70. อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. วินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ข. วินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งไม่รับฟังคำคัดค้านการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ค. วินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งไม่ให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือลบข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล
ง. เสนอแนะในการตราพระราชกฤษฎีกาและการออกกฎกระทรวงหรือระเบียบของคณะรัฐมนตราพระราชบัญญัตินี้
*****************************************************
71. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร แต่ละคณะจะต้องมีกรรมาการไม่น้อยกว่ากี่คน
ก. 3 คน
ข. 5 คน
ค. 7 คน
ง. 9 คน
*****************************************************
72. การส่งคำอุทธรณ์ จากคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการไปยังคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผย ข้อมูลข่าวสารเพื่อพิจารณา จะต้องทำภายในกี่วันนับแต่วันที่คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการได้รับ อุทธรณ์
ก. 3 วัน
ข. 5 วัน
ค. 7 วัน
ง. 15 วัน
*****************************************************
73. การไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ที่สั่งให้เรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำหรือส่งให้ส่งพยานหลักฐาน มีโทษเพียงใด
ก. โทษทั้งจำทั้งปรับ
ข. โทษปรับสถานเดียวไม่มีโทษจำคุก
ค. มีโทษจำคุกสถานเดียว ไม่มีโทษปรับ
ง. ไม่มีโทษทางอาญา
*****************************************************
74. ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อจำกัดหรือเงื่อนไขที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกำหนดตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540 มีโทษอย่างไร
ก. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
ข. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
ค. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท
ง. ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสี่ปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท
*****************************************************
75. ใครเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540
ก. พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ
ข. นายชวน หลีกภัย
ค. ค.นายบรรหาร ศิลปอาชา
ง. ตำรวจโททักษิณ ชินวัตร
*****************************************************
76. สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการมีชื่อย่อว่าอะไร
ก. สขร.
ข. สขม.
ค. สขก.
ง. สขช.
****************************************************
77. พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 บังคับใช้เมื่อพ้นกำหนดกี่วัน
ก. ถัดจากวัดประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข. 90 วัน
ค. 120 วัน
ง. 180 วัน
****************************************************
78. พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 บังคับใช้วันที่
ก. 9 มกราคม 2540
ข. 9 ธันวาคม 2539
ค. 9 ธันวาคม 2540
ง. 10 ธันวาคม 2540
****************************************************
79. ข้อมูลข่าวสารคือ
ก. สิ่งที่สื่อความหมายให้รู้เรื่องราวข้อเท็จจริงข้อมูล หรือสิ่งใด ๆ
ข. การสื่อสารถึงกัน
ค. ข่าวที่นักข่าวนำเสนอ
ง. ถูกทุกข้อ
****************************************************
80. ข้อมูลข่าวสารของราชการคือ
ก. ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแลของหน่วยงานของรัฐ
ข. ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแลของเอกชน
ค. ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแลของรัฐและเอกชน
ง. ข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมดูแลของมูลนิธิ
****************************************************
81. ข้อใดคือความหมาของคนต่างด้าว
ก. บุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย แต่ไม่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
ข. บุคคลธรรมดาที่ไม่มีสัญชาติไทย แต่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
ค. บุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย และมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
ง. บุคคลธรรมดาที่ไม่มีสัญชาติไทย และไม่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
****************************************************
82. ข้อใดต่อไปนี้ถือว่าเป็นคนต่างด้าว
ก. บริษัทชุมชนของเราจำกัดมีคนต่างด้าวถือหุ้นไม่เกินกึ่งหนึ่ง
ข. สมาคมรักไทยมีสมาชิกทั้งหมด 988 คน เป็นคนต่างด้าว 450 คน
ค. มูลนิธิไก่ชนไทยที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ของคนต่างด้าว
ง. สมาคมสู้เพื่อแผ่นดิน ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ของคนไทย
****************************************************
83. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร
ก. ปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานวิชาการและธุรการให้แก่ คณะกรรมการ
ข. ให้คำปรึกษาแก่เอกชนในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. นี้
ค. ประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ
ง. ให้คำปรึกษาแก่หน่วยงานรัฐในการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. นี้
****************************************************
84. ข้อมูลข่าวสารตามข้อใดต้องลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา
ก. โครงสร้างและการจัดองค์กรในการดำเนินงาน
ข. สรุปอำนาจหน้าที่ที่สำคับและวิธีดำเนินงาน
ค. สถานที่ติดต่อเพื่อของรับข้อมูลข่าวสาร
ง. ถูกทุกข้อ
****************************************************
85. ข้อมูลข่าวสารตามข้อใดต้องจัดไว้ให้ประชาชนได้เข้าตรวจดู
ก. ผลการพิจารณาหรือคำวินิจฉัยที่มีผลโดยตรงต่อเอกชน
ข. แผนงาน โครงการ งบประมาณรายจ่ายปะจำปี
ค. สัญญาสัมปทานที่เป็นการผูกขาดตัดตอน
ง. ถูกทุกข้อ
****************************************************
86. ผู้ใดเห็นว่าหน่วยงานของรัฐไม่จัดข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนได้เข้าตรวจดูสามารร้องเรียนต่อหน่วยงานใด
ก. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ข. คณะกรรมการวินิจฉัยข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ค. ศาลปกครอง
ง. คตส.
****************************************************
87. เมื่อมีการร้องเรียนว่าหน่วยงานของรัฐไม่จัดข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนได้เข้าตรวจดูให้คณะกรรมการ พิจารณาให้แล้วเสร็จภายในกี่วัน
ก. 15 วัน
ข. 30 วัน
ค. 60 วัน
ง. 90 วัน
****************************************************
88. กรณีมีเหตุจำเป็นคณะกรรมการไม่สามารถพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในเวลา ให้ขยายเวลาออกไปได้ แต่ต้องแสดงเหตุผลและรวมเวลาทั้งหมดแล้วต้องไม่เกินกี่วัน
ก. 15 วัน
ข. 30 วัน
ค. 60 วัน
ง. 90 วัน
****************************************************
89. ข้อมูลข่าวสารตามข้อใดจะเปิดเผยมิได้
ก. ข้อมูลข่าวสารที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ข. มติคณะรัฐมนตรี
ค. รายงานแพทย์
ง. ข้อมูลส่วนตัว
****************************************************
90. ข้อมูลข่าวสารข้อใดที่หน่วยงานของรัฐอาจมีคำสั่งมิให้เปิดเผย
ก. ข้อมูลข่าวสารที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ
ข. การเปิดเผยอาจทำให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพ
ค. การเปิดเผยอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต
ง. ถูกทุกข้อ
****************************************************
91. เจ้าหน้าที่ของรัฐเห็นว่าการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารอาจกระทบกับส่วนได้เสียของผู้ใด ให้เจ้าหน้าที่แจ้งให้ผู้นั้นคัดค้านภายในกี่วัน
ก. 15 วัน
ข. 30 วัน
ค. 45 วัน
ง. 60 วัน
****************************************************
92. ถ้าเจ้าหน้าที่มีคำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารผู้นั้นอาจอุทธรณ์ต่อคณะกรรมวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารภายในกี่วัน
ก. 15 วัน
ข. 30 วัน
ค. 45 วัน
ง. 60 วัน
****************************************************
93. ถ้าเจ้าหน้าที่มีคำสั่งไม่รับฟังคำคัดค้านของผู้มีประโยชน์ได้เสียผู้นั้น อาจอุทธรณ์ต่อคณะกรรมวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารภายในกี่วัน
ก. 15 วัน
ข. 30 วัน
ค. 45 วัน
ง. 60 วัน
****************************************************
94. “บุคคล” ในความหมายข้อใดถูกต้อง
ก. บุคคลธรรมดาที่ไม่มีสัญชาติไทย
ข. บุคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย
ค. บุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทย และไม่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
ง. ถูกทุกข้อ
****************************************************
95. หน่วยงานของรัฐจะเปิดเผยข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลได้ในกรณีใด
ก. ได้โดยไม่ต้องได้ความยินยอม
ข. ไม่ได้เลยไม่ว่ากรณีใดๆ
ค. ถ้าได้รับความยินยอมเป็นหนังสือไว้ล่วงหน้า
ง. ได้ถ้าบุคคลที่เกี่ยวข้องยินยอม
****************************************************
96. หน่วยงานของรัฐจะเปิดเผยข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมได้ในกรณีใดบ้าง
ก. ต่อหน่วยงายของรัฐด้านการวางแผน
ข. เป็นการให้เพื่อประโยชน์ในการศึกษาวิจัย
ค. ต่อจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร
ง. ถูกทุกข้อ
****************************************************
97. ผู้ใดเห็นว่าข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลเกี่ยวกับตนไม่ถูกต้องให้ ยืนคำร้องเพื่อขอแก้ไขต่อหน่วยงานใด
ก. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ข. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ค. หน่วยงานของรัฐที่ควบคุมดูแลข้อมูลข่าวสาร
ง. ถูกทุกข้อ
****************************************************
98. ผู้ใดเห็นว่าข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลเกี่ยวกับตนไม่ถูกต้องให้ ยืนคำร้องเพื่อขอแก่ไข เปลี่ยนแปลง ถ้าหน่วยงานของรัฐไม่แก่ไข เปลี่ยนแปลง ให้อุทธรณ์ต่อใคร
ก. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ข. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ค. หน่วยงานของรัฐที่ควบคุมดูแล
ง. ศาลปกครอง
****************************************************
99. ผู้ใดเห็นว่าข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลเกี่ยวกับตนไม่ถูกต้องให้ ยืนคำร้องเพื่อขอแก่ไข เปลี่ยนแปลง ถ้าหน่วยงานของรัฐไม่แก่ไข เปลี่ยนแปลง ให้อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการดังกล่าว ภายในกี่วัน
ก. 15 วัน
ข. 30 วัน
ค. 45 วัน
ง. 60 วัน
****************************************************
100. ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ประสงค์จะเก็บรักษา หรือมีอายุครบกำหนดให้ส่งมอบให้แก่หน่วยงานใด
ก. สภาวัฒนธรรมแห่งชาติ
ข. หอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร
ค. กระทรวงวัฒนธรรม
ง. กรมการศาสนา
****************************************************
101. ข้อมูลข่าวสารที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จะจัดให้ประชาชนได้ศึกษาค้นคว้าเมื่อมีอายุครบกี่ปี
ก. 60 ปี
ข. 75 ปี
ค. 80 ปี
ง. 100 ปีขึ้นไป
****************************************************
102. ข้อมูลที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงขอประเทศ จะจัดให้ประชาชนได้ศึกษาค้นคว้าเมื่อมีอายุครบกี่ปี
ก. 20 ปี
ข. 25 ปี
ค. 35 ปี
ง. 75 ปีขึ้นไป
****************************************************
103. รายงานแพทย์ซึ่งการเปิดเผยจะเป็นการรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคลโดยไม่สมควร จะจัดให้ประชาชนได้ศึกษาค้นคว้าเมื่อมีอายุครบกี่ปี
ก. 20 ปี
ข. 25 ปี
ค. 35 ปี
ง. 75 ปีขึ้นไป
****************************************************
104. หน่วยงานของรัฐเห็นว่าข้อมูลข่าวสารใดไม่สมควรเปิดเผย ให้ขยายเวลาได้ไม่เกินคราวละกี่ปี
ก. 2 ปี
ข. 3 ปี
ค. 5 ปี
ง. 7 ปี
****************************************************
105. บุคคลใดไม่ได้เป็นคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก. ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ข. ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ
ค. ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ง. ปลัดกระทรวงยุติธรรม
****************************************************
106. ใครเป็นผู้แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก. คณะรัฐมนตรี
ข. รัฐสภา
ค. นายกรัฐมนตรี
ง. พระมหากษัตริย์
****************************************************
107. ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการมีทั้งหมดกี่คน
ก. 6 คน
ข. 9 คน
ค. 12 คน
ง. 15 คน
****************************************************
108. ใครเป็นเลขานุการคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ก. ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ข. บุคคลที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง
ค. เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
ง. บุคคลที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง
****************************************************
109. ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการได้กี่คน
ก. 1 คน
ข. 2 คน
ค. 3 คน
ง. 4 คน
****************************************************
110. ผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ มีวาระในการดำรงตำแหน่งคราวละกี่ปี
ก. 3 ปี นับแต่วันที่ได้รับการสรรหา
ข. 3 ปี นับแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้ง
ค. 4 ปี นับแต่วันที่ได้รับการสรรหา
ง. 4 ปี นับแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้ง
****************************************************
111. การพ้นจากตำแหน่งของผู้ทรงคุณวุฒิในข้อใดไม่ถูกต้อง
ก. ตาย
ข. คณะรัฐมนตรีให้ออกเพราะมีความประพฤติเสื่อมเสีย
ค. ลาออก
ง. นายกรัฐมนตรีให้ออกเพราะมีความบกพร่อง
****************************************************
112. ใครเป็นผู้แต่งตั้งคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ก. คณะรัฐมนตรี
ข. รัฐสภา
ค. นายกรัฐมนตรี
ง. พระมหากษัตริย์
****************************************************
113. ข้อใดไม่ใช่ความรู้ความเชี่ยวชาญของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ก. ความมั่นคงของประเทศ
ข. เศรษฐกิจและการคลังของประเทศ
ค. การบริหารประเทศ
ง. การบังคับใช้กฎหมาย
***************************************************
114. ให้คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการส่งคำอุทธรณ์ให้คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารภายในกี่วัน นับแต่ที่ได้รับคำอุทธรณ์
ก. 7 วัน
ข. 12 วัน
ค. 15 วัน
ง. 30 วัน
***************************************************
115. ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการ (ตามมาตรา 32) ไม่มาให้ถ้อยคำ ส่งวัตถุเอกสาร หรือพยานหลักฐาน ต้องระวางโทษตามข้อใด
ก. จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 15,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
***************************************************
116. ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อจำกัดหรือเงือนไขที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกำหนด (ตามมาตรา 20) ต้องระวางโทษตามข้อใด
ก. จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
***************************************************
117. ค่าธรรมเนียมในการทำขอทำสำเนาจากหน่วยงานของรัฐข้อใดไม่ถูกต้อง (ออกตามประกาศ)
ก. เอ 4 หน้าละไม่เกิน 1 บาท
ข. บี 4 หน้าละไม่เกิน 2 บาท
ค. กระดาษพิมพ์เขียวเอ 2 หน้าละไม่เกิน 8 บาท
ง. กระดาษพิมพ์เขียวเอ 1 หน้าละไม่เกิน 20 บาท
***************************************************
118. กฎหมายใดถ้าไม่ขัดหรือแย้งกับ พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ให้บังคับใช้ต่อไป
ก. ระเบียบว่าด้วยการักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2517
ข. ระเบียบว่าด้วยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ. 2544
ค. พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
ง. พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539
***************************************************
119. พระราชบัญญัติ ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มีกี่หมวด
ก. 5 หมวด และบทเฉพาะกาล
ข. 6 หมวด และบทเฉพาะกาล
ค. 7 หมวด และบทเฉพาะกาล
ง. 8 หมวด และบทเฉพาะกาล
***************************************************
120. พระราชบัญญัติ ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มีกี่มาตรา
ก. 40 มาตรา
ข. 41 มาตรา
ค. 43 มาตรา
ง. 45 มาตรา
***************************************************
เฉลยแนวข้อสอบพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ. 2540
(ชุดที่ 1) โดยประพันธ์ เวารัมย์ ดังนี้ครับ
ข้อ 1 |
ง. |
|
ข้อ 31 |
ก. |
|
ข้อ 61 |
ง. |
|
ข้อ 91 |
ก. |
ข้อ 2 |
ง. |
|
ข้อ 32 |
ก. |
|
ข้อ 62 |
ค. |
|
ข้อ 92 |
ก. |
ข้อ 3 |
ง. |
|
ข้อ 33 |
ข. |
|
ข้อ 63 |
ง. |
|
ข้อ 93 |
ก. |
ข้อ 4 |
ง. |
|
ข้อ 34 |
ง. |
|
ข้อ 64 |
ค. |
|
ข้อ 94 |
ข. |
ข้อ 5 |
ง. |
|
ข้อ 35 |
ง. |
|
ข้อ 65 |
ง. |
|
ข้อ 95 |
ค. |
ข้อ 6 |
ก. |
|
ข้อ 36 |
ค. |
|
ข้อ 66 |
ง. |
|
ข้อ 96 |
ง. |
ข้อ 7 |
ก. |
|
ข้อ 37 |
ข. |
|
ข้อ 67 |
ง. |
|
ข้อ 97 |
ค. |
ข้อ 8 |
ก. |
|
ข้อ 38 |
ข. |
|
ข้อ 68 |
ง. |
|
ข้อ 98 |
ข. |
ข้อ 9 |
ข. |
|
ข้อ 39 |
ง. |
|
ข้อ 69 |
ข. |
|
ข้อ 99 |
ข. |
ข้อ 10 |
ข. |
|
ข้อ 40 |
ง. |
|
ข้อ 70 |
ง. |
|
ข้อ 100 |
ข. |
ข้อ 11 |
ข. |
|
ข้อ 41 |
ก. |
|
ข้อ 71 |
ง. |
|
ข้อ 101 |
ข. |
ข้อ 12 |
ข. |
|
ข้อ 42 |
ข. |
|
ข้อ 72 |
ค. |
|
ข้อ 102 |
ก. |
ข้อ 13 |
ข. |
|
ข้อ 43 |
ข. |
|
ข้อ 73 |
ก. |
|
ข้อ 103 |
ก. |
ข้อ 14 |
ข. |
|
ข้อ 44 |
ค. |
|
ข้อ 74 |
ก. |
|
ข้อ 104 |
ค. |
ข้อ 15 |
ง. |
|
ข้อ 45 |
ก. |
|
ข้อ 75 |
ก. |
|
ข้อ 105 |
ง. |
ข้อ 16 |
ง. |
|
ข้อ 46 |
ข. |
|
ข้อ 76 |
ก. |
|
ข้อ 106 |
ก. |
ข้อ 17 |
ง. |
|
ข้อ 47 |
ง. |
|
ข้อ 77 |
ข. |
|
ข้อ 107 |
ข. |
ข้อ 18 |
ง. |
|
ข้อ 48 |
ค. |
|
ข้อ 78 |
ค. |
|
ข้อ 108 |
ข. |
ข้อ 19 |
ง. |
|
ข้อ 49 |
ก. |
|
ข้อ 79 |
ก. |
|
ข้อ 109 |
ข. |
ข้อ 20 |
ง. |
|
ข้อ 50 |
ข. |
|
ข้อ 80 |
ก. |
|
ข้อ 110 |
ข. |
ข้อ 21 |
ก. |
|
ข้อ 51 |
ค. |
|
ข้อ 81 |
ง. |
|
ข้อ 111 |
ง. |
ข้อ 22 |
ก. |
|
ข้อ 52 |
ค. |
|
ข้อ 82 |
ค. |
|
ข้อ 112 |
ก. |
ข้อ 23 |
ง. |
|
ข้อ 53 |
ง. |
|
ข้อ 83 |
ง. |
|
ข้อ 113 |
ก. |
ข้อ 24 |
ง. |
|
ข้อ 54 |
ง. |
|
ข้อ 84 |
ง. |
|
ข้อ 114 |
ก. |
ข้อ 25 |
ง. |
|
ข้อ 55 |
ก. |
|
ข้อ 85 |
ง. |
|
ข้อ 115 |
ก. |
ข้อ 26 |
ง. |
|
ข้อ 56 |
ค. |
|
ข้อ 86 |
ก. |
|
ข้อ 116 |
ข. |
ข้อ 27 |
ข. |
|
ข้อ 57 |
ค. |
|
ข้อ 87 |
ข. |
|
ข้อ 117 |
ง. |
ข้อ 28 |
ง. |
|
ข้อ 58 |
ข. |
|
ข้อ 88 |
ค. |
|
ข้อ 118 |
ก. |
ข้อ 29 |
ง. |
|
ข้อ 59 |
ข. |
|
ข้อ 89 |
ก. |
|
ข้อ 119 |
ค. |
ข้อ 30 |
ก. |
|
ข้อ 60 |
ง. |
|
ข้อ 90 |
ง. |
|
ข้อ 120 |
ค. |
|
|
ประพันธ์ เวารัมย์ [101.51.53.xxx] เมื่อ 14/01/2017 13:57
|