คนเก่งนิติศาสตร์ สาขาฯ ขอนแก่น |
|
อ้างอิง
อ่าน 596 ครั้ง / ตอบ 0 ครั้ง
|
ประพันธ์ เวารัมย์
|
คนเก่งสาขาวิทยบริการฯจังหวัดขอนแก่น คว้าเกียรตินิยมอันดับ 2 ใช้เวลาเรียนเพียง3 ปีครึ่ง พร้อมนำความรู้สานต่ออาชีพเป็นนักกฎหมายรับใช้ สังคม
นายศักดา แสนศิริ หรือ ตั้ม บัณฑิตคณะ- นิติศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับ 2 สาขาวิทยบริการฯจังหวัดขอนแก่น มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปัจจุบันเป็นนิติกร บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และกำลังศึกษาต่อเนติบัณฑิตยสภา
บัณฑิตศักดา เล่าถึงการเรียนที่รามคำแหงว่า ช่วงที่เรียนจบ ม.ปลาย ผมก็เป็นเหมือนเพื่อน นักเรียนคนอื่นที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะเรียนอะไร มหาวิทยาลัยแห่งไหน ตอนนั้นเองผมก็ได้ พบกับแสงสว่างที่จุดประกายจากพี่ชายที่ได้ แนะนำให้เรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหง ผมจึงเลือกเรียนคณะนิติศาสตร์ สาขาวิทยบริการฯจังหวัดขอนแก่น เพราะ ถ้าเรียนใกล้บ้านทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย และเดินทางไปเรียนกลับบ้าน ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ก็สะดวกด้วย
“ตอนที่เข้าเรียนปริญญาตรี ปี 1 เทอม 1 ผมเรียนไปตามหลักสูตรที่ มหาวิทยาลัยจัดไว้ให้ พอถึงเทอม 2 ได้รู้จักกับรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย แนะนำ การลงทะเบียน ซึ่งแต่ละเทอมลงทะเบียนได้ไม่เกิน 8 วิชา ไม่เกิน 24 หน่วยกิต และภาคฤดูร้อนก็ลงได้เต็ม 8 วิชาเช่นเดียวกัน ผมจึงจัดการวางแผนการลงทะเบียน จากคำแนะนำของรุ่นพี่เลือกลงวิชาที่เกี่ยวข้องกัน
ผมตั้งมั่นไว้ว่าจะต้องจบตามแผนที่วางไว้ โดยมีเทคนิค คือ ดาวน์โหลด เทปคำบรรยายกระบวนวิชาที่เรียนใส่เครื่อง MP3 เนื่องจากบางครั้งการที่เรา อ่านหนังสือมากไปจะทำให้ง่วงนอน แต่การฟังเทปคำบรรยายนั้นเหมือนว่าเรา ยกห้องเรียนมาไว้ที่บ้านหรือไปฟังที่ไหนก็ได้ ทำให้การเรียนกฎหมายไม่น่าเบื่อ และทำให้เราเข้าใจเนื้อหาของกระบวนวิชาได้ง่ายขึ้น เมื่อไม่เข้าใจในเนื้อหา ส่วนใด ก็จะพลิกเปิดดูที่ตำราเพิ่มเติม
เมื่อฟังเทปคำบรรยายประมาณ 2 - 3 รอบแล้ว ก็จะฝึกทำโจทย์ จากการรวบรวมข้อสอบเก่าที่ห้องสมุดมหาวิทยาลัย ผมจะอ่านข้อสอบเก่าให้ได้ มากที่สุดเพื่อที่จะได้ครอบคลุมเนื้อหา จากนั้นก็มาทำสถิติว่าเนื้อหาส่วนใดบ้าง ที่ออกข้อสอบ พร้อมกับท่องตัวบทกฎหมายไปด้วย อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญ ก็คือ การมีเพื่อนเรียน เพราะการที่เราได้พูดคุยถกเถียงถึงเรื่องการเรียนจะ จำได้ดีกว่าการที่เราอ่านผ่านๆ เมื่อหาคำตอบไม่ได้ก็จะช่วยกันค้นหาคำตอบ ที่ถูกต้องด้วย”
ศักดา บอกถึงความภูมิใจด้วยว่า ผมใช้เวลาเรียน 3 ปีครึ่งก็สำเร็จ การศึกษา รามคำแหงให้หลายสิ่งแก่ผมยิ่งกว่าความรู้ สอนให้รู้จักสิ่งสำคัญที่สุด คือ การที่เราเห็นคุณค่าในตัวเอง ไม่คิดว่าตัวเรานั้นด้อยกว่าคนอื่น ผมคิดเสมอว่า ‘ไม่มีสิ่งใดที่ทำไม่ได้ ถ้ายังไม่ได้ลงมือทำ’ รามฯสอนให้มี ความมานะอดทน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ซึ่งนอกจากความบากบั่นในการเรียน จนคว้าเกียรตินิยมอันดับ 2 มาครองแล้ว ผมยังเคยได้รับรางวัลเพชรประดับรามฯ ด้านวิชาการและวิชาชีพจากมหาวิทยาลัยรามคำแหง และรางวัลชนะเลิศ ตอบปัญหากฎหมายระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากสำนักงานอธิบดี ผู้พิพากษาภาค 4 เมื่อปี 2555 จังหวัดขอนแก่นด้วย
|
|
ประพันธ์ เวารัมย์ [101.51.54.xxx] เมื่อ 14/01/2017 13:57
|