สถิติ
เปิดเมื่อ21/09/2014
อัพเดท11/07/2015
ผู้เข้าชม1714900
แสดงหน้า2191416
บทความ
ประวัติ นายประพันธ์ เวารัมย์ (เจ้าของเว็บไซต์)
ประวัตินายประพันธ์ เวารัมย์ เจ้าของเว็บไซต์ แบ่งปันความรู้สู่ความก้าวหน้า
รู้จัก ด.ช.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านนิตยสารชัยพฤกษ์ ปี 2512
รู้จัก ด.ช.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านนิตยสารชัยพฤกษ์ ปี 2512
เปิดประวัติ พล.อประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 29
เปิดประวัติ พล.อประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 29
ข้อมูลเตรียมสอบปลัดอำเภอ
้ข้อมูลเตรียมสอบปลัด 2
แนวข้อสอบปลัดอำเภอ
คู่มือการดูแลรักษาและคุ้มครองที่สาธารณประโยชน์
เจ้าของเว็บไซต์
โครงสร้างเตรียมสอบปลัดอำเภอ ข้อสอบที่เคยออกปี 2548 และปี 51-55 (สำหรับผู้ใฝ่ฝัน เป็นปลัดอำเภอ)
เตรียมสอบปลัดอำเภอ
ตู้หนังสือ แบ่งปันความรู้สู่ความก้าวหน้า
คู่มือปฏิบัติงานกองอาสารักษาดินแดน
วันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน
​หนังสือคู่มือการทะเบียนราษฎร
เตรียมสอบปลัดอำเภอ
หนังสือสั่งการต่างๆ เกี่ยวกับท้องถิ่น
ท้องถิ่นกำลังจะแก้ไขหลักเกณฑ์การสอบใหม่
เรื่องทั่้วไป
เว็บไซต์กระทรวงต่างๆ 20 กระทรวง
แบ่งปันความรู้สู่ความก้าวหน้า
ยังจำท่านได้ดี ท่านสิริรัฐ (สถาพร) ชุมอุปการ (นายอำเภอประโคนชัย ปี 2547)
สวัสดีวันพุธ ที่ 24 เดือน กันยายน พ.ศ. 2557 ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 11
เอกสารเตรียมสอบปลัดอำเภอ เนื้อหาเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล
เอกสารเตรียมสอบปลัดอำเภอ (ชุดที่ 2)
เอกสารเตรียมสอบปลัดอำเภอ (ชุดที่ 1)
หนังสือปฏิบัติงานกรมการปกครอง
คู่มือการปฏิบัติหน้าที่ของกรมการปกครอง ของปลัดอำเภอ
รวมกฎหมายปกครองที่เล่ม 5
รวมกฎหมายปกครองที่เล่ม 4
รวมกฎหมายปกครองเล่ม 3
รวมกฎหมายปกครอง เล่ม 1
รวมกฎหมายปกครอง เล่ม 2
ปฎิทิน
April 2025
Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat
  
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
   




ประกาศคกก.ข้อมูลฯ เรื่องการเรียกค่าธรรมเนียมการขอสำเนา

ประกาศคกก.ข้อมูลฯ เรื่องการเรียกค่าธรรมเนียมการขอสำเนา
อ้างอิง อ่าน 244 ครั้ง / ตอบ 0 ครั้ง

ประพันธ์ เวารัมย์
ประกาศคกก.ข้อมูลฯ เรื่องการเรียกค่าธรรมเนียมการขอสำเนา
http://www.slideshare.net/valrom/ss-46208388
หรือ
http://legal.tu.ac.th/menu/law_tu/pdf/pdf_a/notice_news/ประกาศคกก.ข้อมูลฯ%20เรื่องการเรียกค่าธรรมเนียมการขอสำเนา.pdf



คำถามที่ได้รับการสอบถามเป็นจำนวนมาก หน่วยงานจึงนำมาแสดงในรูปแบบคำถาม-คำตอบ ที่เป็นที่สนใจ
1. ถาม เกี่ยวกับขั้นตอนการส่งข้อมูลข่าวสาร ขั้นตอนการส่งข้อมูลข่าวสาร ตามมาตรา 7 (1) (2) (3) ลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา
ตอบ แนวทางปฏิบัติในการส่งเรื่องไปประกาศในราชกิจจานุเบกษามีดังนี้
      1.มีหนังสือนำส่งเรื่องไปถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และลงนามโดยหัวหน้าหน่วยงานระดับกรมหรือเทียบเท่า 
     2.เอกสารที่ส่งไปประกาศ ให้จัดส่งต้นฉบับหรือสำเนาคู่ฉบับซึ่งปรากฎลายมือชื่อของผู้มีอำนาจลงนามในเรื่องนั้น จำนวน 1 ชุด และสำเนาต้นฉบับที่มีข้อความชัดเจน จำนวน 4 ชุด โดยให้จนท. ตั้งแต่ระดับ 5 ขึ้นไปหรือเทียบเท่า ลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง และระบุชื่อตำแหน่งให้ชัดเจน 

     3.การพิมพ์เอกสารให้พิมพ์แนวตั้งเป็นหลัก

     4.เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในการพิมพ์ และแก้ไขข้อความให้ถูกต้อง จึงให้หน่วยงานที่ส่งประกาศ ส่งแผ่นข้อมูล (disk) ที่บันทึกข้อมูลในลักษณะข้อความ Word มิใช่รูปภาพไปด้วย

        สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ส่วนราชกิจจานุเบกษา สำนักนิติธรรม สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี โทร.02-280-9000 ต่อ 124-6
   2. ถาม เกี่ยวกับการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมในการถ่ายสำเนาเอกสาร
  การกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมในการถ่ายสำเนาเอกสารข้อมูลข่าวสารของราชการ

ตอบ เรื่องการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการเป็นไปตามมาตรา
  9 วรรคสาม กล่าวคือ หากมีกฎหมายใดกำหนดเกี่ยวกับการเก็บค่าธรรมเนียมไว้โดยเฉพาะอยู่แล้วก็ให้เป็นไปตามกฎหมายเฉพาะนั้น เช่น การเก็บค่าธรรมเนียมการสำเนาทะเบียนบ้านก็เป็นไปตาม พ.ร.บ.ทะเบียนราษฎร์ หรือการสำเนาโฉนดที่ดินก็เป็นไปตามประมวลกฎหมายที่ดิน แต่หากไม่มีกฎหมายกำหนดไว้เฉพาะก็จะเป็นตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ กล่าวคือ หากหน่วยงานใดจะเก็บค่าธรรมเนียมการเข้าตรวจดู การสำเนาข้อมูลข่าวสารของราชการ หรือการสำเนาที่มีคำรับรองถูกต้อง จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการเสียก่อน เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้วจึงจะเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวได้ อย่างไรก็ดี คณะกรรมการฯได้ออกเกณฑ์กลางขึ้นมาในการเก็บค่าสำเนาข้อมูลข่าวสารของราชการไว้ตามประกาศลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2542 ซึ่งถือเป็นการเก็บค่าธรรมเนียมที่คณะกรรมการให้ความเห็นชอบไว้แล้ว เช่น การสำเนาข้อมูลด้วยกระดาษขนาด A4 เก็บไม่เกินแผ่นละ 1 บาท หรือค่ารับรองสำเนาถูกต้องเก็บครั้งละไม่เกิน 5 บาท รวมที้งการเก็บค่าธรรมเนียมตามต้นทุนที่แท้จริง นอกจากนี้หากหน่วยงานใดจะเก็บค่าธรรมเนียมก็ต้องขอความเห็นชอบเป็นรายๆไป ในทางปฏิบัติมีบางหน่วยงานให้เอกชนตั้งเครื่องถ่ายเอกสารไว้บริการ นั่นเป็นการบริการของเอกชนซึ่งไม่ถูกผูกพันตามประกาศหรือกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการ ซึ่งหน่วยงานของรัฐน่าจะดำเนินการให้เกิดความเหมาะสมในเรื่องนี้ต่อไป

   

3. ถาม เกี่ยวกับใบประมาณราคาก่อสร้าง

  ในกรณีสอบราคา สามารถเปิดเผยราคาในใบประมาณการราคาก่อสร้างให้แก่ผู้รับเหมาได้หรือไม่
ตอบ ปัจจุบันเรื่องการเปิดเผยราคากลางในการก่อสร้างถือว่าต้องเปิดเผยในประการศประกวดราคาหรือ
  ประกาศสอบราคาได้เลย นอกจากนี้รายละเอียดการคำนวณราคากลางดังกล่าวก็สามารถขอได้ ณ หน่วยงานเจ้าของเรื่องด้วย ทั้งนี้มีมติ ครม.ในเรื่องนี้สั่งการไว้ด้วย


4. ถาม เกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามมาตรา 9 ของ พรบ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ
      1. ตามมาตรา 9(2) ระบุว่า 'นโยบายหรือการตีความที่ไม่เข้าข่ายต้องลงพิมพ์ในราชกิจจานุเบกษา ตามมาตรา 7(4) หมายความว่าให้นำมติคณะรัฐมนตรี นอกเหนือจาก มาตรา 7(4)มาบรรจุไว้ใช่หรือเปล่าหรือหมายความว่าอย่างไร

     2. ถ้าจะนำนโยบายของนายก อบต.มาบรรจุไว้ได้หรือเปล่าครับถ้าไม่ได้ให้เก็บไว้ในข้อใดครับ

     3. ข้อมูลข่าวสารอื่นตามที่คณะกรรมการกำหนดตาม มาตรา 9(8) มีอะไรบ้างครับขอความอนุเคราะห์ข้อมูลด้วย

ตอบ กรณีเกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรีที่นำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นไปตามมาตรา 9(7) ซึ่งต้อง

  นำลงประกาศฯ สำหรับมาตรา 9(2) เป็นเรื่องหน่วยงานทางปกครองหรือฝ่ายบริหารกำหนดนโยบายหรือมีการตีความที่เป็นแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับประชาชน นอกเหนือจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ดำเนินการไปแล้ว กฎหมายจึงกำหนดให้เป็นมาตรา 9(2) ซึ่งข้อมูลตามมาตรา ๙ นี้เป็นข้อมูลที่หน่วยงานของรัฐต้องจัดไว้ประชาชนตรวจดูได้ ณ ที่ทำการของหน่วยงานเจ้าของเรื่องนั้นๆ

สำหรับนโยบายของนายก อบต.ก็สามารถบรรจุเป็นมาตรา 9(2) ได้ครับ

ข้อมูลตามมาตรา 9(8) ปัจจุบัน คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ได้กำหนดไว้ 2 ประการ คือ

     1) ข้อมูลที่เป็นประกาศประกวดราคาและประกาศสอบราคา ที่ผู้มีอำนาจลงนามแล้วให้นำมาแสดงไว้ให้ตรวจดูได้อย่างน้อย 1 ปี

     2) ข้อมูลสรุปผลการจัดซื้อจัดจ้างในรอบเดือน ที่กำหนดให้สรุปแสดงตามตารางแบบ สขร.1 ซึ่งเก็บไว้ให้ดูว่า ในรอบเดือนนั้นๆมีการใช้เงินในการจัดซื้อจัดจ้างอะไรบ้าง

   

5. ถาม เกี่ยวกับการขอดูกระดาษคำตอบและคำเฉลยข้อสอบ

  ส่วนราชการได้จัดสอบคัดเลือกผู้บริหาร ซึ่งมีผู้เข้าสอบซึ่งคะแนนไม่ผ่านร้อยละ 60 ร้องขอตรวจสอบ 2 ประเด็น คือ (1) ขอดูคะแนนของตนเอง (2) ขอดูเฉลยคำตอบ ซึ่งในประเด็นที่ (1) ส่วนราชการได้ให้เจ้าตัวดูแล้ว ในส่วนประเด็นที่ (2) ยังไม่ได้รับคำตอบ ขอเรียนสอบถามว่าในประเด็นที่ (2) จะสามารถขอดูได้หรือไม่ ส่วนราชการนั้นสามารถสงวนสิทธิได้หรือไม่

ตอบ ข้อมูลข่าวสารของราชการตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการนั้น ประชาชนมีสิทธิขอดูได้

  แต่อาจมีข้อมูลบางประเภทที่หน่วยงานจะอ้างกฎหมายในการไม่ให้ดู ซึ่งถือเป็นดุลพินิจของหน่วยงานเจ้าของข้อมูล ประชาชนอาจเชื่อตามนั้นแล้วไม่ขอต่อ หรืออาจไม่เชื่อก็จะมีสิทธิอุทธรณ์การปฏิเสธไม่ให้ดูนั้นได้ เมื่อมีการปฏิเสธแล้วจะมีคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร เป็นผู้พิจารณาและมีคำวินิจฉัยว่าให้เปิดเผยหรือไม่ให้เปิดเผยต่อไป

สำหรับกรณีที่ขอข้อมูลไป ๒ ประเด็น ประเด็นแรกแจ้งเปิดเผยแล้วแต่ประเด็นที่ ๒ ยังไม่แจ้งนั้น ผู้ขอมีสิทธิร้องเรียนให้หน่วยงานแจ้งผลว่าจะให้ดูหรือไม่ โดยร้องเรียนมายังคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ เพื่อดำเนินการได้ต่อไปครับ

   

6. ถาม ข้อมูลส่วนบุคคลและผลการพิจารณาคัดเลือก

  กรณี นาย ก. ผู้สมัครเข้ารับการคัดเลือกเพื่อเลื่อนระดับ ต้องการทราบผลคะแนนของตนเอง และของบุคคลอื่นๆทั้งหมดที่เข้าร่วมการคัดเลือกในคราวเดียวกัน ซึ่งหลักเกณฑ์การคัดเลือกดังกล่าว พิจารณาจากผลของการแสดงวิสัยทัศน์ และมีหลักเกณฑ์เงื่อนไขอื่นๆของคณะกรรมการภายในสำนักงาน ฯ

ในการนี้ สำนักงานฯควรดำเนินการอย่างไร จึงจะถูกต้องตาม พรบ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ

ตอบ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 มาตรา 25 ได้กำหนดสิทธิในการรู้ถึงข้อมูลข่าวสาร

  ส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนไว้ ดังนั้นเมื่อเจ้าตัวขอดูข้อมูลที่เป็นผลคะแนนของตนเองก็ใช้สิทธิขอดูได้ ซึ่งหน่วยงานของรัฐต้องจัดไว้ให้ตรวจดูได้ หากไม่ให้ดูก็ต้องมีเหตุผลที่สมควรและแจ้งปฏิเสธการเปิดเผยไป เพื่อให้ใช้สิทธิอุทธรณ์ได้ต่อไป สำหรับการขอดูผลคะแนนของผู้อื่นนั้น ถือเป็นการดูข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลของคนอื่นซึ่งมาตรา 24 กำหนดเรื่องความยินยอมไว้ โดยต้องมีหนังสือยินยอมมาประกอบคำร้องขอดูดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ดี หากไม่มีหนังสือยินยอมมาให้ หน่วยงานก็ต้องปฏิเสธการเปิดเผยซึ่งจะทำให้ผู้ขอมีสิทธิอุทธรณ์ได้ต่อไป เคยมีแนวคำวินิจฉัยหากผู้ขอมีส่วนได้เสียกับข้อมูลนั้น เช่น การสอบแข่งขันที่รับตามจำนวนที่กำหนด กวฉ.จะให้เปิดเผยข้อมูล แต่หากเป็นการสอบแข่งขันโดยกำหนดเกณฑ์เช่น 60% จึงจะผ่าน อย่างนี้ กวฉ.เห็นว่าเป็นการแข่งขันเฉพาะตัว ที่จะไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้อื่น เป็นต้น

          สำหรับหลักเกณฑ์หรือข้อมูลที่เป็นเงื่อนไขในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ถือเป็นข้อมูลข่าวสารของราชการที่เปิดเผยได้
 

7. ถาม ความหมายของคำว่า 'หน่วยงานของรัฐ'

      1. ความหมายของคำว่า 'หน่วยงานของรัฐ' ตามมาตรา 4 ของพ.ร.บ. ข่าวสารฯ นี้ หมายความรวมถึงองค์การมหาชน ตามพ.ร.บ.องค์การมหาชน หรือไม่ เนื่องจาก ตามกฏหมายอื่นๆ ของทางราชการ องค์การมหาชน มักจะอยู่ในความหมายของคำว่า 'หน่วยงานอื่นของรัฐ' แต่สำหรับ พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสาร นั้น ใช้คำว่า 'หน่วยงานอิสระของรัฐและหน่วยงานอื่นตามที่กำหนดในกฏกระทรวง' เมื่อตามไปดูกฎกระทรวงที่ออกตามความใน พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่ ไม่ปรากฏในเรื่องหน่วยงานอื่น ดังนั้น องค์การมหาชนอยู่ในข่ายที่จะต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ. นี้หรือไม่เพียงใด เนื่องจากในคู่มือของสำนักงาน ก.พ.ร. กำหนดว่า 'ให้องค์การมหาชน ยึดถือหลักการและแนวทางปฏิบัติที่ปรากฏอยู่ใน พ.ร.บ.ข้อมูลข่าสาร ฯ ซึ่งหากต้องดำเนินการ จะต้องดำเนินการอย่างไร โปรดแนะนำ

     2. เป็นไปได้หรือไม่ เนื่องจาก พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของทางราขการ พ.ศ. 2540 เกิดก่อน พ.ร.บ.องค์การมหาชน พ.ศ. 2546 ซึ่ง ณ ขณะที่ตรากฏหมายยังไม่มีองค์การพันธุ์ใหม่นี้อยู่ในสารระบบหน่วยงานของรัฐ เป็นไปได้หรือไม่ว่า จะปรับปรุงกฏหมายเพื่อให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติ เพราะการตีความให้กับผู้บริหารของสำนักงาน หากข้อความในกฏหมายไม่ชัดเจน ปัญหาสำหรับผู้ปฏิบัติ คือคำตอบว่า ผู้ปฏิบัติตีความไม่ถูกต้องอาจตีความเป็นอย่างอื่นก็ได้ ซึ่งหมายถึงการไม่ต้องปฏิบัติตาม

ตอบ หน่วยงานของรัฐตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.๒๕๔๐ นั้นจะให้คำจำกัดความไว้ตาม

  กฎหมายอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม กรณีองค์กรมหาชนที่จัดตั้งขึ้นภายหลังจากที่กฎหมายข้อมูลข่าวสารของราชการออกมาใช้บังคับแล้วนั้น กฎหมายที่เกี่ยวกับการจัดตั้งหน่วยงานหรือองค์กรดังกล่าวขึ้น ก็ได้มีการกำหนดอยู่แล้วให้เป็นหน่วยงานของรัฐซึ่งก็ต้องถือปฏิบัติตามกฎหมายข้อมูลข่าวสารของราชการด้วย นอกจากนี้องค์กรบางองค์กรที่จัดตั้งขึ้นได้มีการกำหนดให้อยู่ในกำกับดูแลของรัฐมนตรีฯ ซึ่งก็ถือเป็นราชการส่วนกลาง ในกำกับดูแลของกระทรวงนั้นๆไปด้วย สำหรับการปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการนั้นของให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานมาประสานกับทางสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ เพื่อแนะนำการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป เพราะคงต้องทำความเข้าใจในรายละเอียดของการปฏิบัติที่เกี่ยวข้องด้วย

          สำหรับประเด็นการปรับแก้ไขกฎหมายนั้นอยู่ในระหว่างการดำเนินการเสนอขอแก้ไขเพื่อความชัดเจนอยู่แล้ว ขณะนี้อยู่ในการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

   

8. ถาม หนังสือร้องขอข้อมูลองค์การบริหารส่วนตำบลของผู้รับเหมา

  ข้อเท็จจริง กรณีมีผู้รับเหมาทำหนังสือร้องขอข้อมูลมาที่ อบต. 1 ฉบับโดยหนังสือแจ้งว่าต้องการให้ อบต. ดำเนินการ คือ ส่งเอกสารเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือประกวดราคาให้แก่ผู้รับเหมาทราบทุกครั้งที่มีการดำเนินการประกวดราคาหรือจัดซื้อจัดจ้าง แต่ อบต.ไม่ปฏิบัติตามคำขอโดยแจ้งแก่ผู้รับเหมาให้ทราบว่าการทำหนังสือร้องขอข้อมูลดังกล่าวนั้นต้องทำหนังสือทุกครั้งที่มีการร้องขอเป็นเรื่องๆทุกครั้งไป

ถามว่าการไม่ปฏิบัติตามหนังสือคำร้องขอข้อมูลของผู้รับเหมาและแจ้งแก่ผู้รับเหมาข้างต้น อบต. กระทำโดยชอบด้วย กม. หรือไม่ อย่างไร   และขอคำแนะนำเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป พร้อมทั้งแนะนำแหล่งหาเอกสารอ้างอิง

ตอบ สิทธิประชาชนตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการเป็นเรื่องของการเข้าตรวจดู ขอสำเนา

  หรือขอสำเนาที่มีคำรับรองถูกต้องของข้อมูลข่าวสารของราชการ การจะจัดส่งข้อมูลข่าวสารให้ผู้ขอหรือไม่ เป็นเรื่องการดำเนินการของหน่วยงานของรัฐ แต่ไม่มีข้อกฎหมายกำหนดให้ต้องกระทำแต่อย่างใด เว้นแต่เอกสารการสอบราคาที่มีระเบียบว่าด้วยการพัสดุฯ กำหนดให้ส่งไปยังผู้ประกอบอาชีพรับจ้างให้มากที่สุด (หน่วยงานจะมีการจัดทำบัญชีผู้ประกอบอาชีพรับจ้างไว้ ซี่งหากบริษัทหรือผู้รับจ้างในอาชีพนั้นๆจะขอให้ส่งเอกสารสอบราคา ก็ควรไปแจ้งขึ้นทะเบียนไว้กับหน่วยงานต่อไป)

หน้าที่ที่หน่วยงานต้องปฏิบัติคือ การติดประกาศการประกวดราคาหรือสอบราคา และจัดส่งไปเพือ่เผยแพร่ให้เป็นไปตามระเบียบฯ รวมทั้งการจัดข้อมูลข่าวสารของราชการดังกล่าวไว้ ณ หน่วยงานของรัฐนั้น(เช่น อบต.) เมื่อประชาชนมาตรวจดูก็จะเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้โดยสะดวก กรณีการขอให้ส่ง หากจะส่งให้ก็ไม่ผิดระเบียบหรือกฎหมายใด แต่หากไม่ส่งก็ควรแจ้งตอบกลับให้ผู้รับเหมาทราบว่ามีการจัดซื้อจัดจ้างให้มาตรวจดูข้อมูลที่เกียวข้อง และให้คอยมาตรวจสอบเป็นระยะๆ เพราะการเขียนถามครั้งเดียวแต่เป็นภาระในการต้องคอยแจ้งตลอดคงไม่ถูกต้อง เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการแจ้งซึ่งดังกล่าว ประชาชนควรเข้ามาตรวจดูในเวลาอันสมควรต่อไป

   

   
 
ประพันธ์ เวารัมย์ [183.89.75.xxx] เมื่อ 14/01/2017 13:57
ความคิดเห็นของผู้เข้าชม
รูปประกอบความคิดเห็น :
ชื่อผู้แสดงความคิดเห็น :
สถานะ : รหัสผ่าน :
อีเมล์ :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง :
รหัสความปลอดภัย :