หยุดแชร์ข้อทักท้วงสตง.ที่ยังไม่มีข้อยุติ |
|
อ้างอิง
อ่าน 405 ครั้ง / ตอบ 0 ครั้ง
|
ประพันธ์ เวารัมย์
|
หยุดแชร์ข้อทักท้วงสตง.ที่ยังไม่มีข้อยุติ
สวัสดีวันขึ้นปีใหม่ไทย หรือ วันสงกรานต์ ครับ วันนี้ เป็นวันหยุดวันที่ ๓ ของเทศกาลวันสงกรานต์ เหลืออีก ๒ วัน ก็จะต้องกลับมาทำงานกันแล้วครับ ส่วนตัวไม่ได้ไปไหนครับ อยู่บ้าน คงเป็นไปตามวัย ที่ไม่ค่อยอยากไปเล่นน้ำ หรือไปไหนเพราะกลัวถูกสาดน้ำ แต่วันที่ ๑๕ นี้ จำเป็นต้องไปสูมาคารวะสระเกล้าดำหัว คุณแม่ และญาติผู้ใหญ่ที่บ้านครับ เพราะเป็นประเพณีสำคัญของคนภาคเหนือ ซึ่งถือเป็นวันขึ้นปีใหม่เมืองเหนือด้วย วันนี้ อยู่บ้านจึงขอนำบทความที่ผมได้นำไปเผยแพร่ในเฟสบุ๊คมาหลายวันแล้ว แต่เห็นว่าพวกเราส่วนใหญ่เห็นด้วย กับเรื่องที่ผมนำมาเสนอ จึงอยากนำมาให้หลายท่านที่ไม่ได้เล่นเฟส ได้ร่วมกันคิดร่วมวกันหาแนวทางแก้ไข และสะท้อนไปยังผู้ที่มีอำนาจในบ้านเมืองได้แก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นครับ ตามบทความด้านล่างนี้ สุดท้าย เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ไทยประจำปี ๒๕๕๘ นี้ ผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย พระบารมีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ทุกท่านเคารพนับถือ จงดลบันดาลประทานพรให้ทุกท่านจงประสบแต่ความสุข ความเจริญ ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง จิตใจเข้มแข็ง มีเงินทองใช้ตลอดไม่ขาดมือทุกท่านครับ.
บทความ เรื่อง 'หยุดแชร์ข้อทักท้วงสตง.ที่ยังไม่มีข้อยุติ'
-ผมเข้าใจในความหวังดีของหลายคน พอไปอบรม ที่มีวิทยากรจากกองตรวจสอบ กรมส่งเสริม หรือไปเห็นข้อมูลที่นำมาเผยแพร่ผ่านเว็บของกองตรวจสอบ กรมส่งเสริมฯ ก็นำโพสต์ต่อ แชร์กันต่อ โดยไม่ตรวจสอบ หรือวิเคราะห์ว่า เหตุใด สตง.จึงทักท้วงเรื่องนั้นๆ เพราะเอกสารที่นำมาเผยแพร่นั้นเป็นข้อสรุปของสตง. แต่เราไม่ได้ศึกษาที่มาที่ไปของเรื่องนั้นๆ ว่าเป็นมาอย่างไร เอกสารโครงการเขียนวัตถุประสงค์ไว้อย่างไร จัดซื้อจัดจ้างเขียนไว้อย่างไร เพราะโครงการหนึ่งทำที่ภาคเหนือก็มีวัตถุประสงค์อย่างหนึ่ง ไปทำที่ภาคใต้ก็อาจมีวัตถุประสงค์อีกอย่างหนึ่ง พวกเราจะนำมาเป็นบรรทัดฐานเดียวกันมิได้ ศาลปกครองเมื่อพิจารณาพิพากษาคดีหนึ่งๆ แล้วยังไม่สามารถนำไปเป็นแนวทางให้ถือปฏิบัติทั่วประเทศไม่ได้เลย เพราะบริบท สังคม ปัจจัยแวดล้อมต่างกันครับ
-ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่หลายคนโดยเฉพาะคนที่จบด้านนิติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็น ปลัดฯ นิติกร การเงิน วิเคราะห์ ฯลฯ นำมาโพสต์เผยแพร่ เพราะนั่นเป็นสาเหตุของความแตกแยก ระหว่างคนทำงานด้วยกันเอง เรากลายเป็นเหยื่อให้คนบางกลุ่ม บางจำพวก นำไปเป็นประเด็นเป็นช่องทางทำมาหากิน ที่ต้องไปอบรมซักซ้อมเรื่องดังกล่าวทั้งๆที่มันไม่มีอะไรเลย ไปก็ถูกข่มถูกขู่อย่างโน้นอย่างนี้ พอกลับมาที่ทำงาน ไม่เป็นอันทำงานหวาดระแวงกลัวโน้นกลัวนี่ไปหมด แทนที่อบรมมาแล้ว จะสามารถแก้ไขปัญหาและทำงานได้ราบรื่นขึ้น กับเกิดการทะเลาะกับผู้บังคับบัญชา เกิดการทะเลากับผู้บริหาร หากท่านเป็นเช่นนี้ ย้ายไปที่ไหนก็ไม่สามารถทำงานได้ราบรื่นหรอกครับ
-พวกเราลองคิดดู อปท.มี 8,000 แห่ง ข้าราชการ-ลูกจ้างมีกว่า 400,000 คน เมื่อเทียบเป็นร้อยละของพวกเราที่ถูกลงโทษทางวินัยถึงปลดออก ไล่ออก ด้วยเรื่องเหล่านี้แล้ว มีกี่เปอร์เซ็นต์ ผมฟันธงว่า มีไม่ถึง ร้อยละ ๑ เพราะพวกเราไม่ได้กระทำทุจริต สิ่งที่พวกเราทำนั้น แม้คนสตง.หรือคนในกองตรวจสอบไม่เห็น แต่ชาวบ้านเห็น เทวดาฟ้าดินเห็น ผีสางนางไม้เห็น เห็นแล้วเขามีความสุข มีความสุขที่พวกเราทำงานเพื่อประชาชน เพื่อชาวบ้าน เพื่อคนบ้านนอกคอกนา เพื่อคนยากจน เพื่อคนพิการ คนชราภาพ คนไม่มีทางไป นี่คือเกราะป้องกันพวกเรามิให้ต้องรับโทษ แม้สตง.จะทักท้วงกี่ล้านคดีก็ตาม แต่นั่นเป็นเพียงข้อทักท้วง มิใช่ชี้ว่า ผิด หรือ ถูก เพราะ สตง.ไม่มีอำนาจชี้ กระทรวงมหาดไทย ก็ไม่มีอำนาจชี้ กรมส่งเสริมก็ไม่มีอำนาจชี้ ถามว่าแล้วองค์กรใดมีอำนาจชี้ว่า สิ่งที่สตง.ทักท้วงนั้น อปท.ทำถูก หรือ สตง.เข้าใจคลาดเคลื่อน นั่นคือ 'ศาลปกครอง' จะเป็นคนชี้ครับ
-ถามว่า ข้อทักท้วงเหล่านั้น ทำไมกรมส่งเสริมฯ ไม่ทำเป็นหนังสือลายลักษณ์อักษร ซักซ้อมเป็นแนวทางปฏิบัติเล่า หากต้องการให้อปท.ปฏิบัติตามข้อทักท้วงของสตง. กรมส่งเสริมฯทำไม่ได้ เพราะมันยังไม่มีข้อยุตินั่นเอง ฉะนั้น หยุดเถอะครับ ความหวังดีประสงค์ร้ายที่ทำให้พวกเราขวัญผวาไม่เป็นอันทำงานแบบนั้นนะ ท่านคิดว่า หวังดี แต่ ความหวังดีของท่าน ทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อน ประชาชนเดือดร้อน ผู้บริหารเดือดร้อน ข้าราชการเดือดร้อน ลูกจ้างก็เดือดร้อนเพราะข้าราชการทะเลาะกันเอง แบบนี้ พวกเราชอบกันมากนักหรือครับ
-ผมขอร้อง คนในกรมส่งเสริมฯ โดยเฉพาะ ท่านอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ช่วยสร้างความเข้าใจกับคนของท่านโดยเฉพาะกองตรวจสอบ ด้วยครับ เรื่องใดยังไม่ยุติไม่ควรนำมาเผยแพร่หรือนำไปบรรยายขยายความ เพราะหลายๆประเด็นพอนำไปบรรยายแล้ว แต่ผลสุดท้ายไม่เป็นไปตามที่คนของท่านไปบรรยายไว้ ถามว่า แล้วใครควรรับผิดชอบกับสิ่งที่มันทำความเสียหายให้กับอปท. ให้กับโอกาสที่ประชาชนควรจะได้รับบริการจากอปท.แต่กลับไม่ได้รับเพราะคนของกรมส่งเสริมฯเอง และท่านอธิบดีฯควรนำประเด็นเหล่านี้ คุยกันบ้างในการประชุมประจำเดือนของกรมฯ เพื่อมิให้อปท.เดือดร้อนเพราะพฤติกรรมของคนในกรมส่งเสริมฯมากไปกว่านี้ครับ
ด้วยความเคารพ
พิพัฒน์ วรสิทธิดำรง
กลุ่มเพื่อนข้าราชการส่วนท้องถิ่น
๑๓ เมษายน ๒๕๕๘

|
|
ประพันธ์ เวารัมย์ [183.88.52.xxx] เมื่อ 14/01/2017 13:57
|