โดย...อินทรชัย พาณิชกุล
คล้อยหลังเหตุการณ์อันน่าสะเทือนใจที่หญิงสาวรายหนึ่งขับรถพุ่งชนขบวนจักรยานกลางถนนในจ.เชียงใหม่ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ บาดเจ็บอีก 2 ราย ซึ่งตรวจสอบผู้ขับพบว่ามีแอลกอฮอล์ในเลือดสูง 67 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง
ถึงขั้นนายกรัฐมนตรีออกมาสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งกวดขันตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ และบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังโดยไม่มีข้อยกเว้น
ท่ามกลางคำถามคาใจว่าจะทำได้จริง หรือเป็นเพียงไฟไหม้ฟางเหมือนที่ผ่านมา
เมาแล้วขับ=ฆาตกร
นาทีนี้ กระแสเรียกร้อง 'เมาแล้วขับ=ฆาตกร'ดังระงมไปทั่ว
ในความรับรู้ของสังคม หากพบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ กฎหมายถือว่าเมาสุรา ถ้าขับรถขณะมึนเมา แม้จะยังไม่เกิดความเสียหายต่อผู้ใดก็ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายเช่นกัน มีโทษสูงสุดจำคุก 1 ปี ปรับสูงสุด 20,000 บาท และถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่อย่างน้อย 6 เดือน แต่ถ้าหากเมาสุราแล้วขับรถจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ต้องรับโทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี และปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท รวมถึงต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ด้วย
นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เผยว่า กระแสรณรงค์ 'เมาแล้วขับเท่ากับฆาตกร' สะท้อนให้เห็นว่าสังคมไทยตื่นตัวกับปัญหาเมาแล้วขับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้น
'ที่ผ่านมาบ้านเราถ้าเมาแล้วขับรถชนคนตาย ศาลจะตัดสินว่าเป็นการกระทำโดยประมาท ประมาทในที่นี้หมายถึงไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้เจตนา เหมือนรถเบรคแตก ฝนตกถนนลื่นควบคุมรถไม่ได้แล้วชนคนตาย กฎหมายไทยลงโทษเบามาก แถมยังไม่ได้ถูกบังคับใช้อย่างเต็มที่ เกิดเหตุทีไรส่วนใหญ่ก็แค่ปรับเงิน ชดใช้ค่าเสียหาย รอลงอาญา คุมประพฤติ แต่ไม่ต้องติดคุก เพราะถือว่าเป็นการกระทำโดยประมาท คนเลยไม่เข็ดหลาบ ไม่เกรงกลัว แต่ในต่างประเทศ ถ้ากินเหล้าเมาแล้วไปขับรถชนคนตาย จะถือว่าคนพวกนี้เป็นอาชญากร เป็นอาชญากรรมที่กระทำโดยเจตนาจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต เพราะรู้ทั้งรู้อยู่แล้วว่าการดื่มเหล้าเมาแล้วขับรถมันมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมากกว่าปกติ ดังนั้นจึงสมควรที่จะได้รับโทษหนักกว่าการกระทำโดยประมาท'
ยาแรงได้ผลชะงัด
เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เสนอว่าสิ่งที่รัฐบาลทำได้ทันทีก็คือ บังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่อย่างเต็มที่ เด็ดขาดจริงจัง โดยไม่จำเป็นต้องปรับแก้ หรือเสนอกฎหมายใหม่ด้วยซ้ำ
'ต้องใช้ยาแรง ตั้งแต่ให้มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นบนท้องถนน โดยไม่มีข้อยกเว้น ลงโทษจำคุกผู้กระทำผิดโดยไม่รอลงอาญา รับรองคนจะเกรงกลัวไม่กล้าคิดดื่มแล้วขับ ถ้าทำตรงนี้ได้จะช่วยลดปัญหาเมาแล้วขับชนคนตายไปโดยอัตโนมัติ ขณะเดียวกันสื่อมวลชนหรือองค์กรต่างๆต้องรณรงค์ควบคู่กันไปด้วย เช่น เก็บสถิติผู้กระทำผิดที่ถูกลงโทษทุกจังหวัดทั่วประเทศ นำเสนอเป็นตัวอย่างแก่ประชาชนได้ตระหนัก ทั้งหมดนี้รัฐบาลสามารถทำได้ทันที โดยไม่ต้องเสนอกฎหมายใหม่ ไม่ต้องเสียงบประมาณเพิ่ม แค่บังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่อย่างเด็ดขาดจริงจัง ---ไม่มียกเว้น ประกาศนำร่องไปเลย 6 เดือน ได้ผลแน่'
ต้องเอาผิดร้านเหล้าด้วย
ขณะที่ เภสัชกรสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า อยากให้มีการเอาผิดร้านเหล้าที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ให้กับผู้ที่ครองสติไม่ได้ด้วย ตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 มีโทษจำคุก1ปี ปรับไม่เกิน2หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
'จากเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้น ขอเรียกร้องให้ตำรวจเอาผิดร้านค้าดังกล่าวด้วย เพราะหากผู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เคารพและปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ขายให้ผู้มีอาการมึนเมา ปัญหาเมาแล้วขับก็จะลดลง โดยเฉพาะกลุ่มที่ดื่มจัดตามร้านเหล้าผับบาร์ต่างๆ หากผู้ดื่มในร้านไปก่ออุบัติเหตุทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บและเสียชีวิต ทั้งสองฝ่ายต้องร่วมกันรับผิดชอบ เนื่องจากร้านเหล้าเป็นผู้มีส่วนสนับสนุนให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งมาตรการนี้ในต่างประเทศได้นำไปใช้และได้ผล ทำให้ร้านค้ามีความตระหนัก มีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น
ที่ผ่านมา คิดเพียงว่าผู้ดื่มจะต้องรับผิดชอบตัวเองไม่เกี่ยวกับสถานประกอบการ อีกทั้งไม่เคยเห็นตำรวจหยิบมาตรา 29 นี้ไปใช้ จึงอยากเรียกร้องรัฐบาลใช้กฎหมายที่มีอยู่จัดการปัญหาอย่างจริงจัง นอกจากนี้ฝากไปถึงอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับผู้ขาย ไม่ใช่ไปชี้ช่องส่งเสริมหรือหลบเลี่ยงกฎหมายเพื่อหวังยอดขาย ควรมีความรับผิดชอบให้มากกว่านี้ นอกจากนี้ควรจะหยิบยกเรื่องการจัดตั้งศาลจราจรขึ้นมาพิจารณา เพราะคดีต่างๆโดยเฉพาะพฤติกรรมเมาแล้วขับ มีการฝ่าฝืนอยู่เป็นประจำและมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีผู้ที่เข้ามาจัดการตัดสินโดยตรง'
ทั้งหมดเป็นข้อเสนอจากหน่วยงานที่รณรงค์เรื่องเมาไม่ขับที่ยืนยันว่าสามารถทำได้ทันที และรับประกันว่าได้ผลแน่นอน
ประวัตินายประพันธ์ เวารัมย์ เจ้าของเว็บไซต์ แบ่งปันความรู้สู่ความก้าวหน้า 
รู้จัก ด.ช.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านนิตยสารชัยพฤกษ์ ปี 2512 
คู่มือการดูแลรักษาและคุ้มครองที่สาธารณประโยชน์ 
เจ้าของเว็บไซต์ 
โครงสร้างเตรียมสอบปลัดอำเภอ ข้อสอบที่เคยออกปี 2548 และปี 51-55 (สำหรับผู้ใฝ่ฝัน เป็นปลัดอำเภอ) 
ตู้หนังสือ แบ่งปันความรู้สู่ความก้าวหน้า 
คู่มือปฏิบัติงานกองอาสารักษาดินแดน 
วันสถาปนากองอาสารักษาดินแดน 
ท้องถิ่นกำลังจะแก้ไขหลักเกณฑ์การสอบใหม่ 
เว็บไซต์กระทรวงต่างๆ 20 กระทรวง 
แบ่งปันความรู้สู่ความก้าวหน้า 
ยังจำท่านได้ดี ท่านสิริรัฐ (สถาพร) ชุมอุปการ (นายอำเภอประโคนชัย ปี 2547) 
